คัดลอก URL แล้ว

ขั้นตอนการนำรถจักรยานยนต์คู่ใจโดยสารบนรถไฟข้ามจังหวัดที่คุณควรรู้

ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลายรายที่ชื่นชอบการเดินทางข้ามจังหวัด หรือมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางทำงานข้ามจังหวัดไกล ๆ หลาย ๆ คนจึงเลือกเตรียมรถจักรยานยนต์คู่ใจให้รองรับการเดินทางไกลให้สมบูรณ์ทั้งตัวรถ และสัมภาระ แต่ก็มีอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือการนำรถจักรยานยนต์คู่ใจขนส่งไปทางรถไฟ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามจังหวัด และยังรองรับการขนส่งได้ทุกรูปแบบ ทุกซีซี แต่จะมีขั้นตอน และเสียค่าธรรมเนียมเท่าไหร่บ้าง มาหาคำตอบกันได้เลย

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

บริการส่งรถจักรยานยนต์โดยทางรถไฟ

ด้วยการรถไฟแห่งประเทศไทย มีบริการขนส่งรถจักรยานยนต์ของคุณไปสู่จุดหมายพร้อมกับเจ้าของรถได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งข้ามจังหวัดไกล ๆ และผู้ขับขี่ก็สามารถขับรถมอเตอร์ไซค์ต่อได้เมื่อถึงสถานีปลายทาง ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางข้ามจังหวัดโดยลดภาระการใช้งานรถจักรยานยนต์ข้ามจังหวัดในกรณีไม่คุ้นเคยเส้นทาง ช่วยประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และยืดอายุการใช้งาน

หรือจะส่งรถจักรยานยนต์ไปให้ญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัดใช้ ไปจนถึงการส่งมอเตอร์ไซค์มือสองให้กับลูกค้าปลายทางก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยลดความเสียหายในระหว่างเดินทางได้เป็นอย่างดี

ขั้นตอนการส่งรถจักรยานยนต์

  1. นำ ถจักรยานยนต์ ที่ต้องการใช้บริการส่งไปที่สถานีรถไฟต้นทาง
  2. เเจ้งเจ้าหน้าที่ช่องขายตั๋วว่ามีสัมภาระเป็นมอเตอร์ไซค์ หรือรถจักรยานยนต์ พร้อมซื้อตั๋วรถไฟในปลายทางที่ต้องการ (ให้กับรถจักรยานยนต์)
  3. ไปที่ห้องส่งพัสดุ แจ้งรายละเอียดปลายทางที่ต้องการขนส่งรถจักรยานยนต์พร้อมยื่นเอกสารทั้ง บัตรประชาชนตัวจริง ทะเบียนรถ และในกรณีที่ผู้ส่งไม่ได้เป็นเจ้าของรถ ต้องเตรียมสำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถพร้อมลายเซ็น และเอกสารการซื้อขายรถร่วมด้วย
  4. ชำระค่าบริการที่เรียกว่า “ค่าระวางสัมภาระ” ตามปริมาณซีซีรถที่กำหนด จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะนำรถจักรยานยนต์เข้าห้องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่
  5. เจ้าของรถ หรือผู้ติดตาม จะต้องเดินทางไปพร้อมกันกับขบวนรถนั้น ๆ ด้วย แต่ในกรณีที่รถไฟขบวนนั้นเต็ม รถจะถูกส่งแยกอีกขบวน ส่วนเจ้าของรถจะต้องเดินทางล่วงหน้าเพื่อรอรับรถที่สถานีปลายทาง ซึ่งอาจจะใช้เวลานานสุด 1 วันโดยประมาณ

ค่าระวางสัมภาระสำหรับขนส่งรถจักรยานยนต์ (ข้อมูลล่าสุดปี 2566)

รถจักรยานยนต์ อนุญาตให้นำไปกับขบวนรถโดยสาร และรถรวมทุกขบวน โดยเสียค่าระวาง ดังนี้

นอกจากนี้ ค่าระวางขนส่งรถจักรยานยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติมตามน้ำหนักรถ ประเภทรถไฟอีกด้วย ซึ่งมีด้วยกันดังนี้

ขบวนรถธรรมดา และขบวนรถดีเซลรางอื่น ๆ

ขบวนรถด่วน รถเร็ว และขบวนรถพิเศษโดยสาร

*จำนวนกลุ่ม หมายถึง น้ำหนักของสัมภาระ ซึ่งการรถไฟฯ แยกเป็นส่วน ๆ ละ 20 กิโลกรัม / 1 กลุ่ม เช่น 60 กิโลกรัม จะคิดเป็น 3 กลุ่ม

ทั้งนี้หากต้องการสอบถามรายละเอียดค่าระวางสัมภาระทุกรายการเพิ่มเติม สามารถสอบถาม หรือดูตารางราคาได้ที่ห้องพัสดุ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ การรถไฟแห่งประเทศไทย และศูนย์บริการข้อมูลลูกค้าสัมพันธ์ Call Center หมายเลข 1690

คำแนะนำเพิ่มเติม

หากตัวรถมีการติดตั้งชุดแต่งเสริม ควรถอดออกเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเสียหาย หรือสูญหาย อีกทั้งหากมีชิ้นส่วรถที่มีความเปราะบาง ก็ควรหาวัสดุหุ้มเพื่อกันกระแทกควบคู่ด้วย


เป็นอีกหนึ่งวิธีของการเดินทางไกลพร้อมรถจักรยานยนต์ที่เพิ่มความสะดวกสบาย และลดความเสียหายของชิ้นส่วนในระหว่างเดินทางไกลได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้รถในจังหวัดปลายทาง ส่งรถให้คนใกล้ชิด จนถึงลูกค้ารถมือสองในอีกฟากหนึ่งของประเทศ

เครดิตข้อมูลจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง