คัดลอก URL แล้ว

หมวกกันน็อค ก็มีอายุขัย มาดูแลรักษาและทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อช่วยรักษาชีวิตคุณ

รู้หรือไม่ว่า หมวกกันน็อค อุปกรณ์ที่สำคัญของเหล่าผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ และสกู๊ตเตอร์ ทุกซีซี ทุกกำลังขับเคลื่อน ที่จะช่วยปกป้องศีรษะคุณเมื่อประสบอุบัติเหตุ แต่เมื่อใช้งานได้สักระยะหนึ่ง ก็มีวันหมดอายุขัย ความสามารถในการป้องกันก็จะลดลง ซึ่งหมวกันน็อคนั้นก็มีความจำเป็นที่ต้องดูแลรักษาให้เป็นอย่างดีไม่แพ้รถคู่ใจ ซึ่งเจ้าของหมวกขี่ควรเช็คสภาพ วิธีการดูแลรักษา และการเลือกซื้อหมวกที่เหมาะสม ดังนี้

อาการที่เปรียบเสมือนนับถอยหลังสิ้นอายุขัยของหมวกกันน็อค

อายุขัยหมวกกันน็อคจริง ๆ จะแตกต่างกันขึ้นกับการใช้วัสดุในการผลิตหมวกกันน็อก เช่น หมวกกันน็อกที่ผลิตจากโพลีคาร์บอเนต หรือพลาสติกธรรมดา จะมีอายุการใช้งาน 5 ปีโดยประมาณ ซึ่งเมื่อใช้งานนาน ๆ ตากแดดบ่อย ๆ หรือผ่านการถูกกระแทก ก็จะส่งผลต่ออายุขัยของหมวกกันน็อกที่ลดลง

หากคุณใช้งานหมวกกันน็อคมากกว่า 3 ปีขึ้นไป ควรพิจารณาถึงสภาพที่เสียหายหรือเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลาสติกภายนอกว่ามีสีซีดกว่าเดิม พลาสติกเริ่มผุ เม็ดโฟมภายในเริ่มเสื่อมสภาพ ไปจนถึงนวมฟองน้ำที่เสียรูปทรง สายรัดขาดความยืดหยุ่น ชิลด์บังลมสีขุ่นมัว กลิ่นเหม็นอับ รวมถึงมีรอยร้าว รอยบุบ หรือรอยขูดขีด ซึ่งล้วนส่งผลต่อการลดทอนประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทก และสมาธิในการขับขี่

การดูแลรักษาหมวกกันน็อคคู่ใจ

เพื่อช่วยในการยืดอายุของหมวกกันน็อคคู่ใจให้สวยงาม ทนทาน พร้อมปกป้องผู้ขับขี่ให้มากที่สุด เริ่มจากการทำความสะอาดขั้นเบื้องต้น ไม่ว่าจะเป็นภายนอกที่ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำเปล่า หรือน้ำสบู่หมาด ๆ เพื่อเช็ดคราบภายนอก ส่วนชิลด์บังลมหน้าควรหาผ้าไมโครไฟเบอร์สะอาด ชุบสบู่อ่อน ๆ หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าสกปรกหรือน้ำยาที่มีสารเป็นกรดหรือด่างสูงเกินไป เช่น ใช้ผงซักฟอก น้ำยาฟอกขาว

ขณะเดียวกันหากมีการติดตั้งหูฟัง หรือไมโครโฟนบลูทูธ ก็ให้แนะนำถอดออกเพื่อช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น และตรวจสอบสภาพการทำงานว่ายังสมบูรณ์หรือไม่ นอกจากนี้ หมวกบางใบก็จะมีตัวช่วยลดการเกิดฝ้า หรือ Pinlock แนะนำให้ใช้ผ้าสะอาดเช็ดอย่างเดียวก็พอ

สำหรับภายในหมวกนั้นจะมีบางรุ่นที่สามารถถอดโฟม และนวมออกมาเพื่อทำความสะอาดได้ โดยสามารถซักได้ด้วยน้ำผสมแชมพูเด็ก ซึ่งจะช่วยลดการตกค้างของสารเคมีที่สะสมในโฟม หรือฟองน้ำ โดยแช่ในน้ำอุณหภูมิปกติราว ๆ 5 – 10 นาที แล้วทำการขัดเบา ๆ ล้างน้ำเปล่าซ้ำ 2-3 รอบ แล้วตากแดดอ่อน ๆ ที่มีลมถ่ายเทสะดวก

สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่ควรซักด้วยน้ำร้อนจัด ระมัดระวังแช่น้ำนานเกินไป และตากแดดแรงจัด ที่อาจให้ชิ้นส่วนพลาสติก และโฟมเสียหายได้

ขณะที่หมวกบางชนิดนั้นจะไม่สามารถถอดชิ้นส่วนด้านในได้ ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดด้านในหมวกสูตรเฉพาะ ฉีดให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดก่อนนำไปตากแดดอ่อน ๆ หรือตากในที่ร่มอากาศถ่ายเท และระวังในการตากแดดจัดด้วยเช่นกัน

หากมีชิ้นส่วนที่เป็นโลหะ เช่น น็อตยึด ที่ล็อกสายรัดคาง ควรระมัดระวังในเรื่องการโดนน้ำ และความชื้น ส่วนพวกสายรัด เช่น สายผ้าให้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ด ตามด้วยผ้าแห้งเช็ดซับน้ำ แล้วผึ่งลม

การเลือกซื้อก็เป็นสิ่งสำคัญ

ภาพประกอบจาก freepik.com

ผู้ขับขี่ที่จะซื้อหมวกกันน็อคใหม่นั้น ควรจะต้องสังเกตสภาพของร้านว่ามีการจัดวางสต็อกหมวกกันน็อคไม่ให้โดนแสง และความชื้น, ควรซื้อจากกล่องใหม่สภาพสมบูรณ์ ไม่ฉีกขาดหรือมีรอยบุบ แทนการซื้อหมวกที่ตั้งโชว์ในร้าน

การซื้อหมวกกันน็อคที่มีฉลากระบุปีที่ผลิต ก็ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถคำนวณอายุขัยของหมวกได้อย่างชัดเจน ควบคู่กับการดูมาตรฐานการผลิตจากหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรับประกันคุณภาพของหมวก

ขณะเดียวกันหากจะซื้อหมวกกันน็อคมือสองจากผู้ขับขี่อื่น ควรสอบถามวันที่ซื้อครั้งแรก หรือข้อมูลปีที่ผลิตของหมวกใบนี้ไว้ควบคู่กับดูสภาพความสมบูรณ์ของหมวกในทุก ๆ ด้าน รวมถึงความสะอาด แต่แนะนำควรเน้นสะสมหมวก และเลี่ยงการใช้สวมใส่จะดีกว่า เพราะนอกจากจะได้หมวกที่มีขนาดไม่พอดีกับศีรษะแล้ว อาจผ่านการดัดแปลงจนสูญเสียประสิทธิภาพการป้องกัน ยังอาจได้หมวกที่เสื่อมสภาพหรือมีอายุการใช้งานที่สั้นไม่คุ้มเสีย

การกำจัดหมวกกันน็อคเก่า

การกำจัดหมวกกันน็อคที่เสื่อมสภาพนั้นจะมีตั้งแต่การทิ้ง การขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า หรือนักสะสมหมวกกันน็อค หรือดัดแปลงเป็นกระถางต้นไม้ ที่เก็บของ เป็นต้น

แต่หากหมวกใบนั้นมีคุณค่าต่อทางจิตใจ เช่น ได้ลายหรือรุ่นหายากที่กว่าจะได้มาต้องทุ่มเททั้งกาย ใจ และกำลังทรัพย์ หมวกลิมิตเต็ดที่เข้าคู่กับรถจักยานยนต์รุ่นพิเศษ จนถึงมีลายเซ็นนักแข่งชี่อดัง ก็อาจจะซ่อมแซมให้ดูสวยงามแล้วตั้งโชว์เป็นสมบัติส่วนตัว หรือเป็นของตกแต่งร้านได้ ซึ่งก็จะช่วยสร้างมูลค่า และสร้างไลฟ์สไตล์ให้กับคุณได้ หรือหากเป็นหมวกใบเก่าสีเรียบ ๆ ก็สามารถนำไปตกแต่งลวดลายให้สวยงามตั้งโชว์ได้อีกทาง


และนี่คือเทคนิคการเลือกซื้อ และดูแลรักษาหมวกกันน็อคเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งาน และช่วยปกป้องศีรษะผู้ขับขี่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ขับขี่ที่เป็นเจ้าของหมวกควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของหมวกตลอดเวลา เมื่อเข้าสู่ปีที่สามก็ให้ดูสภาพปัจจุบันว่ามีอะไรเสียหายบ้าง หากยังสมบูรณ์ก็ใช้ได้ในอีกสักระยะไม่เกิน 5 ปี และพบว่ามีการชำรุดจริง ๆ ก็อย่าเสียดายที่จะเลิกใช้ ควรหาใบใหม่ที่มีคุณภาพมาใช้แทนจะดีที่สุด และทิ้งหมวกใบเก่าไว้เป็นความทรงจำ

หรือรักษา-ซ่อมแซมหมวกพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ แล้วตั้งโชว์ไว้ให้คุณได้ชมความงาม ความทุ่มเทที่ได้ครอบครอง และคุณค่าของความปลอดภัยจากการทำหน้าที่ตลอดอายุขัยของหมวกกันน็อคของคุณ

เครดิตข้อมูลจาก motorandwheels.com motorcycle.com , worldsustainable.org


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง