นพ.กุลเสฎฐ ศักดิ์พิชัยสกุล แพทย์เชี่ยวชาญ โรคระบบประสาทวิทยา, โรคลมชัก กลุ่มงานกุมารเวชศาสตร์-งานประสาทวิทยา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Kullasate Sakpichaisakul โดยระบุว่า ลังเลอยู่นานว่าจะโพสเรื่องนี้เกี่ยวกับโควิดดีไหม เพราะก่อนหน้านี้ที่ระบาดระลอกก่อนหน้านี้ ยอมรับว่า ในฐานะหมอสมองเด็ก ไม่ค่อยได้ดูโควิดเท่าไรเพราะเด็กติดเชื้อน้อยกว่า และมักไม่มีอาการทางสมอง ได้แต่ติดตามรายงานจากของต่างประเทศ
จนฤดูกาลโอมิครอน เริ่มได้รับปรึกษาอาการทางระบบประสาทบ่อยขึ้นในทุกช่องทางจากทั่วสารทิศ ก็สามารถดูแลได้ จน 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้รับปรึกษาเคสเด็ก 2 ราย จากคนละจังหวัด (อายุ 6 และ 8 ปี) ไม่มีโรคประจำตัวมาก่อน มีอาการทางสมองอย่างรุนแรง คือ ไข้ ชัก และซึมลงเหมือนกันอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาหลักชั่วโมงถึงวัน
หลังจากที่ได้รับปรึกษาจึงขอดูภาพถ่ายสมองที่ดูเผินๆ อาจจะไม่มีอะไรมาก (ภาษาหมอ คือ สมองบวมเป็นหย่อม) แต่พอได้ดูภาพด้วยตัวเองแล้ว เป็นไปตามที่คิดไว้ คือ มีรอยโรคอยู่ตำแหน่งจำเพาะของสมอง คือ thalamus 2 ข้าง ซึ่งถ้าในฐานะหมอสมองเด็ก ก็วินิจฉัยว่าคือ “acute necrotizing encephalopathy (ANE)” ซึ่งพบบ่อยในไวรัสหลายชนิดโดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ กลไกการเกิดโรคยังไม่รู้แน่ชัด แต่จากข้อมูลที่มี คือ “cytokine storm” (หาคำไทยไม่เจอ)
น่าเสียดายที่ไม่สามารถช่วยเด็ก 2 คนนี้ไว้ได้ เพราะโรครุนแรงมากจริงๆ เพราะสมองเสียการทำงานไปหมด (ส่วนตัวก็ยังไม่มั่นใจวินิจฉัยเร็วจะช่วยได้มากแค่ไหน) สุดท้ายเลยคิดว่าการโพสต์นี้อาจะช่วยเพิ่มความตระหนักให้ทั้งหมอเด็ก และประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับโควิดและอาการทางสมองแบบรุนแรง
***ขอย้ำว่าอาการรุนแรงแบบนี้พบน้อยมากครับถ้าเทียบกับจำนวนติดเชื้อทั้งหมด แต่เพื่อเป็นการเพิ่มความตระหนัก
สำหรับแพทย์ ถ้ามีอาการ ไข้ ชัก ร่วมกับซึม *ย้ำว่าซึมและนอนหลับมาก* จะเป็นอาการเด่นในภาวะนี้ซึ่งต่างจากคนส่วนใหญ่ที่มีไข้ และอาการชักโดยที่หลังชัก จะฟื้นคืนสติเหมือนเดิม ให้ยากันชักก็มักจะควบคุมอาการชักได้และปลอดภัย ถ้าเด็กมีอาการซึม ขอให้แพทย์ทำสแกนสมองและดูตำแหน่ง thalamus 2 ข้างให้ดี (เหมือนในภาพขวา จะมีจุดดำเล็กๆ ทั้ง 2 ข้าง) เพื่อการวินิจฉัยภาวะนึ้และรีบปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพราะการส่งตัว น่าจะช้าในช่วงนี้
สำหรับประชาชนทั่วไป คงได้แต่ให้รีบพาไปฉีดวัคซีนสำหรับเด็ก สำหรับคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน จากหลักฐานปัจจุบันที่ยืนยันวัคซีนว่าลดความรุนแรงได้