ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ล่าสุดพบผู้ป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยว่าเป็นโควิด ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา 187 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ได้รับการยืนยันผลแล้ว 19 ราย นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แนะให้ประชาชนสังเกตอาการตัวเองหลังช่วงสงกรานต์ 7 วัน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่เดินทางไปในสถานที่แออัด ต้องตรวจ ATK เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ซึ่งอาการของโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดนี้ จะพบการอักเสบของเยื่อบุต่างๆที่อยู่รอบจมูก ทั้งเยื่อบุตา เยื่อบุโพรงจมูก โดยคาดว่าจากนี้ มีแนวโน้มที่จะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตามที่กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ไว้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยตัวเลขผู้ป่วยโควิดสัปดาห์ล่าสุด ระหว่างวันที่ 9-15 เม.ย. 2566 มีผู้ป่วยรายใหม่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 435 ราย เฉลี่ยวันละ 62 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบ 30 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่รับวัคซีนเข็มกระตุ้นมานานเกิน 3 เดือน ซึ่งจากตัวเลขดังกล่าว ก็ตรงตามที่กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ไว้ว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์ เนื่องจากปีนี้มีการกลับมาจัดกิจกรรมรวมตัวกันจำนวนมากในหลายพื้นที่
กระทรวงสาธารณสุขได้วางแนวทางควบคุมการระบาดไว้ 3 มาตรการ โดยให้ตรวจ ATK เมื่อมีอาการ สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ และ แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งในเดือนพ.ค.นี้ จะให้ประชาชนรับวัคซีนประจำปี โดยฉีดทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิดพร้อมกัน
ส่วนมาตรการทางการแพทย์ ได้เร่งสื่อสารกับประชาชนเตรียมพร้อมยา เวชภัณฑ์ และเตียง รองรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงให้เพียงพอ โดยให้ทุกจังหวัดติดตามเฝ้าระวังและรายงานโรคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตจากโควิด ต้องเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งทางเดินหายใจส่งตรวจหาสายพันธุ์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมเตรียมทีมสอบสวนโรคด้วย