ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนติดต่อง่ายประกอบกับการสนุกสนานรื่นเริงช่วงปีใหม่ ทำให้พบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก และจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องแน่นอน แต่จะสูงแค่ไหนอยู่ที่ทุกคนร่วมมือกันหลังจากนี้ขอให้อยู่ในระดับที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้ ส่วนอัตราการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจะน้อยกว่าช่วงการระบาดของเดลต้า
สิ่งที่สำคัญคือจะต้องเร่งกระตุ้นวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ได้มากที่สุดและรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง ส่วนการดูแลรักษาควรรับผู้ป่วยที่มีอาการมากเข้าโรงพยาบาล กลุ่มสีเขียวจำเป็นต้องแยกตัวที่บ้าน หรือ ชุมชนที่จัด community isolateไว้ เพื่อลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์
จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์ จะเห็นว่าการระบาดทั่วโลกเกิดขึ้นเป็น 4 ระลอก เมื่อเปรียบเทียบอัตราการป่วยจนเสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง ถ้าเริ่มจากปีแรกอัตราป่วยแล้วเสียชีวิตมี 3 ถึง 5 % เข้าสู่ปีที่ 2 เริ่มลดลงเหลือ 2 % และมีแนวโน้มลดลงมาโดยตลอดจนมาถึงระลอกของโอมิครอน ที่กำลังระบาดอยู่ขณะนี้อัตราการป่วยจนเสียชีวิตอยู่ที่ 0.3 %
หากอัตรานี้เหลือน้อยกว่า 0.1% หรือหนึ่งในพัน ก็จะเข้าสู่ยุคของ โรคทางเดินหายใจประจำฤดูกาล ที่จะสร้างปัญหาส่วนใหญ่ให้กับกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มเปราะบางอย่างเช่นโรคไข้หวัดใหญ่