นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในเบื้องต้นว่า ที่ประชุมมีมติ ขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศถึง 30 พฤศจิกายน นี้ ลดระยะเวลาห้ามออกนอกเคหสถานเป็น 22.00-04.00 น. สำหรับกิจกรรมที่เปิดเพิ่มเติมซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม คือ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียน ห้องสมุดพิพิธภัณฑ์ศูนย์การเรียนรู้ร้านทำเล็บร้านสักสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (นวด – สปา)กีฬาในร่มโรงภาพยนตร์การเล่นดนตรีในร้านอาหาร สำหรับศูนย์การค้าและร้านสะดวกซื้อเปิดได้ถึง3ทุ่ม สำหรับกีฬากลางแจ้ง หรือในร่มเป็นที่โล่ง มีผู้ชมได้ร้อยละ 25 ส่วนการเดินทางเข้าประเทศ ปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับผู้มีเอกสารวัคซีนโควิด-19 ครบโดส เหลือกักตัว 7 วัน ผู้ที่ยังไม่มีเอกสารฉีดวัคซีนให้กักตัวตั้งแต่ 10 -14 วัน สำหรับการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศกักตัว 7 วัน ทางน้ำและทางบก กักตัว 10 -14 วัน อนุญาตให้ทำกิจกรรมในสถานที่กักกันฯ ตามเงื่อนไขที่กำหนด |
ด้านแผนเปิดพื้นท่องเที่ยว เปิดพื้นที่นำร่องเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เขาหลัก เกาะยาว จ.พังงา และ เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก จ.กระบี่ ส่วนแนวทางเปิดพื้นที่เพิ่มเติม 10 จังหวัด เริ่ม 1 พฤศจิกายน 2564 คือ กรุงเทพมหานคร จ.กระบี่ จ.พังงา (ทั้งจังหวัด) จ.ประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะที่หัวหิน หนองแก จ.เพชรบุรี เฉพาะที่ชะอำ จ.ชลบุรี เฉพาะ พัทยา บางละมุง จอมเทียน บางเสร่ จ.ระนอง เกาะพยาม จ.เชียงใหม่ ที่ อ. เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า จ.เลย ที่เชียงคาน และ จ.บุรีรัมย์ เฉพาะอำเภอเมือง