ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ได้รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันนี้ โดย
- พบผู้ป่วยในรพ.เพิ่ม 637 ราย รวมสะสม 4,680,470 ราย
(เป็นผู้ป่วยในประเทศทั้งหมด) - หายป่วยเพิ่ม 790 ราย รวมหายแล้ว 4,641,350 ราย
- เสียชีวิตเพิ่ม 10 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 32,755 ราย
- ผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวในระบบบริการ 482 ราย
- ผู้ป่วยปอดอักเสบที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 6,365 ราย
แนวโน้มโควิด-19 ในประเทศไทย
- แนวโน้มผู้ป่วยในระบบริการลดลงต่อเนื่อง แต่อัตราการลดลงเริ่มชะลอตัว
- ยอดผู้ป่วยปอดอักเสบใน – ผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจค่อยลดลง
- แนวโน้มผู้เสียชีวิตลดลงต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์การในขณะนี้ ยังคงเป็นทิศทางที่ดีขึ้น จำนวนผู้ป่วยอยู่ในช่วงขาลง ที่จำนวนผู้ป่วยจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ แต่ยังคงแนะนำให้รักษามาตรการป้องกันส่วนบุคคลไว้อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากยอดผู้ป่วยในระบบ ATK+ ยังค่อนข้างสูง และมีโอกาสที่จะนำเชื้อเข้าสู่ครัวเรือนได้ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ร่วมบ้าน
ซึ่งในขณะนี้ กลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และหลายรายมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อจากบุคคลใกล้ชิดภายในบ้าน
นอกจากนี้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดการป่วยหนัก หรือเสียชีวิตได้ จึงควรเข้ารับวัคซีนให้ครบถ้วนรวมถึงเข็มกระตุ้นด้วย
…
สถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศ
- แนวโน้มทั่วโลกยังคงเป็นทิศทางขาลง แต่ยอดผู้ป่วยรายใหม่เริ่มชะลอตัว ไม่ลดลงมากเหมือนที่ผ่านมา อาจมีแนวโน้มทรงตัว ซึ่งต้องเฝ้าระวังการระบาดระลอกใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
- ในหลายประเทศในแถบตอนเหนือยุโรป เริ่มมีรายงานผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลมากขึ้น เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ ที่เริ่มมีบางเมืองที่กำลังมีแนวโน้มพบผู้ป่วยมากขึ้น
- สหราชอาณาจักร แนะนำให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อรับมือการระบาดที่อาจจะเกิดขึ้นควบคู่กับการระบาดของโควิด-19 ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังมาถึง
- ผลการศึกษาพบว่า ในเพศหญิง 6.2% มีภาวะรอบเดือนที่นานขึ้น หลังได้รับวัคซีนโควิด-19
- นอกจากนี้ อีกการศึกษาหนึ่งยังพบว่า กลุ่มตัวอย่างเพศหญิงที่มีดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกิน 4 แก้วขึ้นไป จะมีโอกาสติดโควิด-19 สูงกว่า ผู้ที่ไม่ได้ดื่ม
- ญี่ปุ่น รายงานยอดผู้ป่วยรายใหม่ 49,979 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 96 ราย แนวโน้มในภาพรวมยังเป็นไปในทิศทางขาลง แม้วันนี้จะมีรายงานเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานที่ผ่านมา
- เกาหลีใต้ พบผู้ป่วยเพิ่ม 30,881 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 46 ราย