ผู้ถือกรมธรรม์ “เจอ-จ่าย-จบ” จะทยอยหมดความคุ้มครองในสิ้นเดือนเมษายนนี้ ทำให้ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ กำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย เป็นห่วงว่าสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจเพิ่มขึ้น ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้ยอดการยื่นขอสินไหมและเงินชดเชย กรณี “เจอ-จ่าย-จบ” อาจเพิ่มสูงขึ้นมากในช่วงเดือนพฤษภาคม
โดยรู้สึกหนักใจ การจ่ายค่าเคลมผู้ถือกรมธรรม์ บริษัทอาคเนย์ประกันภัยและไทยประกันภัย ที่ยังอยู่ในความคุ้มครองกว่า 1 ล้าน 1 แสน 7 หมื่นฉบับ และมียอดค้างจ่าย อีกว่า 1 หมื่น 8 พันล้านบาท
ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการยื่นขอชำระหนี้ จากกองทุนประกันภัย ไม่รวมการยื่นขอเคลมใหม่ โดยกรมธรรม์ทั้งสองบริษัท จะหมดความคุ้มครองครบทุกฉบับ ในเดือนมิถุนายน
จากปัจจุบัน มียอดเคลมประกันโควิด ตั้งแต่ปี 2563 ถึงวันที่ 15 เดือนมีนาคม 2565 มากกว่า 5 หมื่น 1 พัน 8 ร้อยล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นยอดเคลม “เจอ-จ่าย-จบ” 4 หมื่น 2 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยรายได้ จากจำนวนกรมธรรม์โควิดกว่า 20 ล้านฉบับ
เลขาธิการ คปภ. กล่าวอีกว่าแม้ผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นสูงอีกครั้งในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ แต่ยังเชื่อว่าบริษัทประกันภัยในระบบ ยังมีความแข็งแกร่งเพียงพอ และจะไม่เพิ่มความเสี่ยงในอุตสาหกรรมประกันภัยอีก
ขณะเดียวกัน คปภ.ได้เสนอแก้ไข พ.ร.บ.ประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ให้อำนาจนายทะเบียนเอาผิดทางอาญาและทางแพ่ง กรรมการหรือผู้บริหารบริษัทประกัน ที่มีส่วนบริหารงานผิดพลาดทำให้เกิดความเสียหาย ถือเป็นการยกระดับกฎหมายเทียบกับสถาบันการเงิน ซึ่งอยู่ระหว่างรอเข้าสภาฯ พิจารณาต่อไป