วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ล็อตแรก จำนวน 3 แสนโดส มาถึงประเทศไทยแล้ว เตรียมฉีดให้กับเด็ก กลุ่มแรก ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค วันที่ 31 มกราคมนี้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่า ผลข้างเคียงน้อย ที่สำคัญคือ ปลอดภัยกว่าไม่ฉีด
วันที่ 31 มกราคมนี้ วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี ล็อตแรก จะนำมาฉีดให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี ที่มีโรคประจำตัวใน 7 กลุ่มโรค จำนวน 9 แสนคนก่อน
ส่วนเด็กที่เหลืออีกว่า 4 ล้านคน จะได้รับการฉีด ในล็อตต่อไป ที่กำลังทยอยเข้ามา ช่วงเดือนมีนาคม อีก 3 ล้าน 5 แสนโดส จากทั้งหมด 10 ล้านโดส
นายแพทย์ โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า วัคซีนไฟเซอร์เด็ก ฝาปิดสีส้ม 1 ขวด หลังผสมน้ำเกลือแล้ว จะฉีดได้ 10 โดส และสามารถเก็บวัคซีน ในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ได้นาน 10 สัปดาห์ ผลข้างเคียงหลังฉีดไม่รุนแรง หายได้เองภายใน 1-2 วัน เช่น มีไข้ หนาวสั่น ปวด บวมแดงบริเวณที่ฉีด ปวดหัว เมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย
ส่วนระยะห่างระหว่างเข็ม อยู่ที่ 8-12 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพการสร้างภูมิคุ้มกัน สถานการณ์การแพร่ระบาด และดุลยพินิจของกุมารแพทย์ ที่จะตรวจสอบประวัติและโรคประจำตัวของเด็กก่อน
ทางด้านศาสตราจารย์นายแพทย์ สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ยืนยันว่า วัคซีนในเด็กมีผลข้างเคียงน้อย ปลอดภัยมากกว่าการไม่ฉีดอ้างอิงจากการฉีดในสหรัฐอเมริกา กว่า 9 ล้านโดส ห่างกัน 3 สัปดาห์ พบว่ามีเด็กเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เพียง 11 คน แต่อาการน้อยมาก ส่วนที่อังกฤษ ฉีดเข็ม 2 ห่างประมาณ 8 สัปดาห์ พบว่าภูมิขึ้นดี ผลข้างเคียงน้อย