ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เผยตัวเลขสถานการณ์ประจำวันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม 2564 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 50 ของโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 13,655 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่ 13,110 ราย ผู้ป่วยในเรือนจำ 545 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 453,132 ราย รักษาอยู่ 137,058 ราย รักษาในโรงพยาบาล 78,197 ราย และโรงพยาบาลสนาม 58,861 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 3,856 ราย และต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 889 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 312,377 ราย หายเพิ่ม 7,921 ราย เสียชีวิตใหม่ 87 ราย รวมเสียชีวิต 3,697 คน
โดยผู้เสียชีวิตรายใหม่เป็นผู้ป่วยชาย 40 ราย ผู้ป่วยหญิง 47 ราย ค่ากลางอายุผู้ป่วย 66 ปี อายุระหว่าง 24-93 ปี ค่ากลางตั้งแต่วันทราบผลจนเสียชีวิต 8 วัน นานสุด 39 วัน แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 44 ราย, ปทุมธานี 6 ราย, นครสวรรค์ 5 ราย, สมุทรสาครและปัตตานี จังหวัดละ 4 ราย, นครปฐม, สมุทรปราการ, สงขลาและราชบุรีจังหวัดละ 3 ราย, เชียงใหม่, สมุทรสงคราม และสุรินทร์ จังหวัดละ 2 ราย, เชียงราย, พิษณุโลก, พระนครศรีอยุธยา, สิงห์บุรี, อุดรธานีและอุบลราชธานี จังหวัดละ 1 ราย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อพบติดจากคนในครอบครัวถึง 22 ราย รวมถึงอาศัยหรือไปพื้นที่ระบาดถึง 36 ราย
ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 13,099 ราย เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 11 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุก/โรงงานและในชุมชน 3,845 ราย ค้นหาเชิงรุกในเรือนจำ 545 ราย และเข้าระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 9,254 ราย
ด้านการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยยังคงพบการเดินทางผิดกฎหมายจากช่องทางธรรมชาติ โดยเดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย 1 ราย เป็นผู้ป่วยหญิง สัญชาติไทย และเดินทางมาจากประเทศกัมพูชา 3 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยสัญชาติไทย
พบผู้ติดเชื้อในประเทศไทย รวม 13,655 แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5,732 ราย รวมสะสม 218,060 ราย จังหวัดอื่นๆรวม 67 จังหวัด 6,487 ราย รวมสะสม 136,727 ราย และ 4 จังหวัดภาคใต้ 880 ราย รวมสะสม 25,643 ราย
ด้านยอดการฉีดวัคซีนในประเทศไทยรวม 15,084,696 โดส สะสมแบ่งเป็นฉีดวัคซีนเข็มแรก 11,538,866 โดส เพิ่มขึ้น 246,287 โดส และเข็มที่สองจำนวน 3,545,830 โดส เพิ่มขึ้น 33,289 โดส
ซึ่งจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 อันดับแรก แบ่งเป็น พื้นที่กรุงเทพมหานคร 2,893 ราย รวมสะสม 123,506 ราย, สมุทรสาคร 965 ราย รวมสะสม 20,457 ราย, สมุทรปราการ 895 ราย รวมสะสม 29,927 ราย, ชลบุรี 620 ราย รวมสะสม 17,781 ราย, นนทบุรี 416 ราย รวมสะสม 18,833 ราย, ปทุมธานี 365 รายรวมสะสม 16,465 ราย, นครราชสีมา 293 ราย รวมสะสม 3,299 ราย, ปัตตานี 289 ราย รวมสะสม 6,819 ราย, สุพรรณบุรี 274 ราย รวมสะสม 2,403 ราย และระยอง 261 ราย รวมสะสม 4,028 ราย
ด้านพื้นที่กรุงเทพมหานครมีคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังจำนวน 136 แห่ง พบคลัสเตอร์ใหม่ 3 เขต คือ ที่เขตดุสิต ตลาดราชวัตร, ที่เขตบางขุนเทียน เป็นโรงงานทำขนม และที่เขตทุ่งครุ เป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
ด้านการระบาดในพื้นที่จังหวัดอื่นๆพบคลัสเตอร์ใหม่ที่ สมุทรสาคร อำเภอเมืองสมุทรสาคร เป็นโรงงานขึ้นรูปโลหะ พบคลัสเตอร์ใหม่ 15 ราย, ชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี เป็นบริษัทบรรจุภัณฑ์พลาสติกพบคลัสเตอร์ใหม่ 18 ราย, ปทุมธานีอำเภอสามโคก เป็นคลังห้างสรรพสินค้าพบคลัสเตอร์ใหม่ 10 ราย, สุพรรณบุรี ที่อำเภอสองพี่น้อง เป็นโรงงานแปรรูปไก่ พบคลัสเตอร์ใหม่ 119 ราย, ระยอง อำเภอปลวกแดง เป็นบริษัทอุปกรณ์สื่อสาร พบคลัสเตอร์ใหม่ 75 ราย และที่อำเภอเมืองระยอง เป็นแคมป์ก่อสร้าง พบคลัสเตอร์ใหม่ 30 ราย และที่จังหวัดตราดอำเภอเมืองตราด เป็นห้างวัสดุก่อสร้าง พบคลัสเตอร์ใหม่ 19 ราย