คัดลอก URL แล้ว
ค่าแรงขั้นต่ำไทยทะยานสู่ 400 บาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 12 ปี นำโด่งทะลุอาเซียน

ค่าแรงขั้นต่ำไทยทะยานสู่ 400 บาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 12 ปี นำโด่งทะลุอาเซียน

ในที่สุดแรงงานไทยก็ได้เฮ หลังรัฐบาลประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งประวัติศาสตร์เป็น 400 บาทต่อวัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป นับเป็นการปรับขึ้นที่สูงที่สุดในรอบ 12 ปี ด้วยส่วนต่างถึง 46 บาท ส่งผลให้ไทยก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านค่าแรงในภูมิภาคอาเซียน

จากการวิเคราะห์ข้อมูลของ Trading Economics พบว่า ค่าแรงขั้นต่ำของไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มต้นจาก 300 บาทต่อวันในปี 2556 และค่อยๆ ขยับขึ้นจนมาแตะที่ 354 บาทในปี 2565 ก่อนที่จะก้าวกระโดดครั้งใหญ่เป็น 400 บาทในปี 2567 คิดเป็นอัตราการเติบโตสะสม 33% ในรอบทศวรรษ

เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน พบว่าไทยมีอัตราค่าแรงขั้นต่ำสูงกว่าทั้งเวียดนามที่ 229 บาทต่อวัน และมาเลเซียที่ 382 บาทต่อวัน แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีอัตราการเติบโตของค่าแรงที่สูงกว่าไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเวียดนามเติบโตถึง 99% และมาเลเซีย 66% อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเกาหลีใต้ที่มีค่าแรงขั้นต่ำสูงถึง 2,080 บาทต่อวัน ไทยยังคงตามหลังอยู่ค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศกำลังพัฒนา

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้ประกาศรายละเอียดการปรับขึ้นค่าแรงอย่างเป็นทางการ โดยแบ่งออกเป็น 17 อัตรา ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจังหวัดที่ได้รับการปรับขึ้นสูงสุดถึง 400 บาทต่อวัน ได้แก่ จังหวัดที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม อย่างภูเก็ต (370) ฉะเชิงเทรา (350) ชลบุรี (361) และระยอง (361) ขณะที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างนราธิวาส ปัตตานี และยะลา มีอัตราค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 337 บาทต่อวัน

การตัดสินใจปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้มาจากการพิจารณาปัจจัยรอบด้าน ทั้งอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประเทศไทยเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจและการจ้างงาน

นักเศรษฐศาสตร์หลายท่านมองว่า การปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้จะเป็นตัวช่วยสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานไทย และช่วยกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ แม้ว่าผู้ประกอบการบางส่วนอาจแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนที่จะเพิ่มสูงขึ้น แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าในระยะยาวการปรับขึ้นค่าแรงจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม ผ่านการหมุนเวียนของเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นและการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น

ย้อนกลับไปในอดีต ไทยเคยมีการปรับขึ้นค่าแรงครั้งสำคัญในปี 2554 จาก 215 บาทเป็น 300 บาทต่อวัน ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นครั้งใหญ่ในยุคนั้น และการปรับขึ้นครั้งนี้ก็ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการพัฒนาตลาดแรงงานไทย ที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะยาว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง