คัดลอก URL แล้ว
ผับปิดตี 4 กระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ต้องมาพร้อมมาตรเข้มงวด

ผับปิดตี 4 กระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ต้องมาพร้อมมาตรเข้มงวด

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ธุรกิจกลางคืน’ อย่าง สถานบันเทิง ผับ บาร์ เป็นอีกหนึ่งมีธุรกิจที่มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ยิ่งในพื้นที่จังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ นิยมไปท่องเที่ยวด้วยนั้น ทั้งในย่านเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ และภูเก็ต ส่งผลให้เม็ดเงินหลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่ได้เป็นจำนวนมาก

อีกทั้งเป็นการกระจายรายได้ไปสู่การจ้างงานในสถานบันเทิง ร้านเหล้าต่าง ๆ เกิดอาชีพค้าขายในยามค่ำคืน หรือแม้แต่การขนส่งต่าง ๆ ที่คอยบริการนักท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตามมีทางรัฐบาลจะมีการผลักดัน ในการนำร่องพื้นที่ขยายเวลาปิดสถานบันเทิงเป็นตี 4 แต่ก็มีเสียงอีกส่วนหนึ่งที่มองว่าก็ขยายเวลานั้น อาจไม่ส่งผลดีทั้งในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน และปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมา

ฟ้าหลังฝนของร้านเหล้า ผับ บาร์

แม้ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ในประเทศไทยที่ผ่านมา ธุรกิจสถานบันเทิงต่าง ๆ ต้องปิดตัวลงไปเป็นจำนวนมาก อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องต้องหันหลังให้กับธุรกิจนี้ และหาธุรกิจอื่นทำเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้

อย่างไรก็ตามหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะมีความคลี่คลายลงไป ทำให้เราได้เห็นภาพสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ กลับมาเปิดธุรกิจได้อีกครั้ง แม้จะไม่เฟื้องฟูเช่นแต่ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 ก็ตาม

ด้วยสถานการณ์ที่ดีขึ้นทำให้ทางรัฐบาลได้มีการพิจารณาเรื่องการกำหนดเวลาปิดในบริการของสถานบันเทิง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวยามค่ำคืนให้กลับมาเป็นอีกส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ประเด็นดังกล่าวแน่นอนว่ามีความเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งก็มีหลายฝ่ายเกิดข้อกังวลว่ามาตรการดังกล่าว อาจยิ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะ ‘เมาแล้วขับ’ เพิ่มหรือไม่? รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ที่จะตามมาในอนาคต

นำร่อง 4 จังหวัด ผับปิดตี 4

การผลักดันประเด็นเรื่อง ‘ผับปิดตี 4’ ได้มีความชัดเจนแล้ว ภายหลังเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2566 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดสถานบริการ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ

โดยมีจังหวัดนำร่อง 5 พื้นที่คือ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ และ เกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นจังหวัดหลักที่จะอนุญาตให้เปิดสถานบริการถึงตี 4 โดยมีเดดไลน์ที่คือวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ซึ่งช่วงเวลาจะเป็นการชั่วคราวก่อน โดยจะไปพิจารณาถึงช่วงระยะเวลาที่เหมาะสม

ซึ่งจากการประชุมหารือแผนบูรณาการการท่องเที่ยว เปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการคลัง ได้ระบุว่า จากการได้พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคง ซึ่งในความจริงก็มีการลักลอบกระทำกันอยู่บ้าง จึงต้องทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งการพิจารณาเรื่องผลกระทบ โดยในด้านบวกเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน กระตุ้นการท่องเที่ยว และในเรื่องผลกระทบด้านลบที่จะตามมาด้วยเช่นกัน

มาตรการในการควบคุม ‘ผับปิดตี 4’

ประเด็นในเรื่องผลกระทบที่อาจจะตามมานั้น ทางรัฐบาลได้มีการคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน รวมทั้งในเรื่องการเมาไม่ขับถือเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยนายกฯ ได้ฝากให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยโปรโมตแอปพลิเคชัน YOU DRING I DRIVE เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนมากขึ้น

รวมถึงกระทรวงมหาดไทยกำลังดูพื้นที่ที่จะทำโซนนิ่ง และเรื่องใบอนุญาตต่าง ๆ รวมทั้งได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องการดูแลประชาชน ให้ทำความเข้าใจกับนโยบายนี้ เรื่องเสียงรบกวน เรื่องเมาไม่ขับ การติดตั้งกล้อง CCTV ให้มากขึ้น

พร้อมกันนี้ได้มีการนำเอกชนมาร่วมมือการให้บริการเรื่องเมาไม่ขับ รวมถึงการตรวจค้นยาเสพติดในสถานบันเทิงต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น เพื่อไม่ให้เกิดช่องโหว่สำหรับการใช้มาตรการดังกล่าว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง