“พลายศักดิ์สุรินทร์” หรือ “บิลลี่” ช้างไทยเชือกที่ 3 ที่ถูกส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีที่ประเทศศรีลังกาเมื่อปี พ.ศ.2544 เพื่อนำไปฝึกใช้ในการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในงานแห่พระธาตุเขี้ยวแก้ว งานใหญ่ประจำปีของศรีลังกา
หลังจากผ่านไปกว่า 20 ปี ในปี พ.ศ. 2565 พบว่า พลายศักดิ์สุรินทร์ มีชีวิตที่ลำบากไม่ได้รับการใส่ใจดูแลทำให้เจ็บป่วยทรุดโทรม จึงทำให้มีการทวงคืนพลายศักดิ์สุรินทร์กลับคืนสู่บ้านเกิดปะเทศไทย ซึ่งได้กลับมาเมืองไทยเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยในที่นี่ขอสรุปข้อมูลจาก น.ส. กัญจนา ศิลปอาชา ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ได้สัมภาษณ์กับทางทีมงาน MONO NEWS
จุดเริ่มต้นพา พลายศักดิ์ สุรินทร์ กลับบ้าน
องกรค์ RARE จุดประเด็นให้รู้เรื่อง และช่วงต้นปีได้มีการไปตรวจสุขภาพ พลายศักดิ์ สุรินทร์ ซึ่งพ่อพลายอยู่กับคนเลี้ยงที่ใจร้ายเอาไปใช้งานทั้งๆ ที่เค้าพิการ มีอาการป่วย เป็นฝีขนาดใหญ่ที่สะโพก ขาด้านซ้ายไม่สามารถงอได้ ฝ่าเท้าบาง ร่างกายผอมมาก หลังจากหมอไปตรวจเช็คร่างกายก็พบว่าสุขภาพทรุดโทรมาก ซึ่งคุณหมอวิเคราะห์ผลออกมาว่าต้องหยุดทำงานทันที! ต้องย้ายออกจากวัดมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกสุขอนามัย สุดท้ายต้องเอากลับมารักษาที่ไทยเพราะเทคโนโลยีทางการรักษาที่ศรีลังกายังไม่ถึงขั้นที่จะรักษาได้ โดยประมาณเมื่อเดือนสิงหาปีที่แล้วคุณหมอจากหนึ่งในทีมที่ไปดูส่งข่าวมาให้ช่วยนำพ่อพลายกลับมา โดยมีทางท่านทูตช่วยเจรจากับทางเจ้าอาวาสวัดที่ศรีลังกา
ม.ค. 2544 รัฐบาลไทย ส่งช้าง 2 เชือก ให้ศรีลังกา
พ.ค. 2565 RARE ร้อง ก.ทรัพย์ฯ “พลายศักดิ์ สุรินทร์” ถูกใช้งานหนัก
ส.ค. 2565 สถานทูต ณ กรุงโคลัมโบ พบ “พลายศักดิ์ สุรินทร์” ป่วยดูแลไม่ดี
ก.ย. 2565 สัตวแพทย์-ผู้แทนจากไทย ตรวจร่างกาย “พลายศักดิ์ สุรินทร์”
พ.ย. 2565 ย้าย “พลายศักดิ์ สุรินทร์” จากวัดไปดูแลสวนสัตว์แห่งชาติ
ก.พ. 2566 รัฐบาลศรีลังกายอมให้ “พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับไทย
มิ.ย. 2566 ทางการไทยเตรียมพา “พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับ
2 ก.ค. 2566 “พลายศักดิ์สุรินทร์” ถึงสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ. ลำปาง
4 ก.ค. 2566 “พลายศักดิ์สุรินทร์” ช้างในพระบรมราชานุเคราะห์
สามารถเข้าดู “พลายศักดิ์สุรินทร์” ได้ไหม?
ประชาชนสามารถเข้าไปดูที่สวนสัตว์ได้ และตั้งแต่มี “พลายศักดิ์สุรินทร์” คุณเข้าไปดูสวนสัตว์เยอะขึ้นมาก พอมาอยู่ที่สวนสัตว์หยุดการใช้งานพ่อพลายฯ และมีการจ่ายเงินให้กับทางสวนสัตว์ด้วยไมได้ให้อยู่ฟรีๆ เป็นค่าอาหาร ค่าดูแล มีคุณหมอคอยมาดูแลแผลที่เป็นฝีอยู่ตลอด ร่างกายได้รับการฟื้นฟูดีขึ้น
ค่าใช้จ่ายดูแล “พลายศักดิ์สุรินทร์” ระหว่างอยู่ในสวนสัตว์
ค่าอาหารประมาณ 10,000 บาท ค่าควาญจากไทยไปอยู่กับเค้าประมาณเดือนละ 40,000 บาท
วางแผนพา“พลายศักดิ์สุรินทร์” กลับบ้านอย่างไร?
คิดว่าต้องเอากลับอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นจะทำการรักษาไม่ได้
- ขั้นแรกคือ เอาเค้าออกมาจากที่เดิม หยุดการใช้งาน และก็มีคุณหมอมาดูแลตลอด ให้อาหารที่ดีขึ้น ฟื้นฟูร่างกายให้เค้า ในขณะที่เรากำลังดำเนินการเรื่องให้เค้ากลับไทย เพื่อจะได้มีร่างกายที่พร้อมเดินทาง
- ท่านทูตเดินเรื่องการทำเอกสาร ยุ่งยากพอสมควรเพราะมีขึ้นตอนต่างๆ
- กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ เดินเรื่องเกี่ยวกับยานพาหนะ ซึ่งกลับทางเครื่องบินพิเศษของรัสเซีย ที่ใช้ขนอาวุธทางการทหาร เพราะพ่อพลายฯ ตัวขนาดใหญ่ขึ้นเครื่องบินปกติไม่ได้
- ตอนแรกจะพากลับตอนต้นปี แต่พ่อพลายฯ ตกมัน จึงต้องรอออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งสรุปแล้วได้กลับวันที่ 2 ก.ค.
- มีการส่งควาญไป 4 คน เพื่อทำความรู้จักคุ้นเคยกับพ่อพลาย
- มีการซ้อมพ่อพลาย เข้าออกๆ กรงให้ชิน พอเค้าชินก็เริ่มปิดกรงทีละซี่ๆ ใ้ห้อยู่นาน 15 นาที เพิ่มเวลาเป็นชั่วโมง เพื่อให้เค้าคุ้นชินๆ กับกรง และมีการเครนยกลอยกลางอากาศ ดูว่าเค้าจะตกใจไหมแต่ปรากฎว่าพ่อพลายนิ่งมาก มีการซ้อมขบวนจากสวนสัตว์ไปสนามบินว่าต้องใช้เวลาเท่าไร?
โดยทั้งหมดเป็นขั้นตอนคร่าวๆ ในความเป็นจริงมีหลายขั้นตอนละเอียดมากๆ และมีการแก้ไขปัญหากันไปในแต่ละจุด ก็ทุกคนช่วยกันทำแก้ไขปัญหา จนผ่านลุล่วงไปได้
ประสานงานกับศรีลังกา ยากหรือไม่?
ท่านทูตเจรจากับเจ้าอาวาสอยู่ 2-3 ครั้ง ผ่านสังฆราชด้วย พยายามทุกทาง จนเจ้าอาวาสยอมให้พ่อพลายออกมา ส่วนเจรจากับทางรัฐบาลศรีลังกามั้ย ท่านทูตเป็นคนดำเนินการ ซึ่งไม่ได้เล่าให้ฟังในรายละเอียด ทั้งนี้รัฐบาลท่านนายกฯ ได้มีการอนุมัติงบในตอนแรก 23 ล้านบาท แต่เนื่องจากไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร ค่าใช้จ่ายจริงอยู่ที่ประมาณ 17-19 ล้านบาท
อยากให้พลายสุรินทร์ กลับ ศรีลังกาหรือไม่?
การรักษาของพ่อพลาย บอกไม่ได้เลยว่าจะหายเป็นปกติเมื่อไร แต่พี่คิดว่าชั่วชีวิตของน้อง และมีพระบรมมหากรุณาธิคุณโปรดรับฯ พ่อพลายไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เรื่องการส่งกลับไม่ต้องพูดถึงอีกแล้ว จบเลย คือไม่อยากให้กลับและไม่ไปส่งด้วยค่ะ
มีแผนพา พลายศรีณรงค์ และ พลายประตูผา กลับไทยหรือไม่?
ในเบื้องต้นยังไม่มีแผนพากลับ แต่ในต้นเดือนกันยานี้ ตัวพี่พร้อมทีมแพทย์จะไปศรีลังกาเพื่อจะไปสร้างความร่วมมือในทางการสัตว์แพทย์ เพื่อจะแลกเปลี่ยนการเรียนรู้รูปแบบการดูแลช้าง เค้าก็จะได้ช่วยดูแลช้างของเราอย่างต่อเนื่องและยืนยาว
อยากเรียนพี่น้องคนไทยที่มีกระแสให้เอาน้องกลับไทยให้หมด ให้ใจเย็นๆ นิดนึง ขอกาญจนาไปดูลู่ทางก่อน ไม่อยากให้เกิดเป็นประเด็นวิวาทะกันทั้งสองประเทศ ไม่มีความสำเร็จไหนที่เกิดขึ้นโดยใช้ความรุนแรงต่อกัน เราต้องใช้ความนุ่มนวล ขอพี่น้องคนไทยใจเย็นๆ นิดนึง จะหาทางที่ดีที่สุดเพื่อชีวิตของพ่อพลายของเราสองเชือกที่เหลือที่นั่น
คิดจะระดุมทุนพาช้างกลับหรือไม่?
เรื่องระดุมทุนคงไม่เอา เพราะอยากเกิดดราม่า อย่างที่บอกไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ค่อยๆ ทำทีละขั้น ประเด็นแรกวัดจะให้มั้ย อย่างที่บอกวัดพระเคี้ยวแก้วมีอิทธิพลที่สุดในศรีลังกา อย่าเพิ่งไปดูว่าระดมทุนเอากลับมาๆ คือคนทำงานนี่มันต้องไปเจอหน้างาน มันมีปัญหา ต้องแก้ไปทีละขั้นๆ
NGO ระบุว่า มีหญิงไทยอ้างว่าเป็นตัวแทนรัฐ หมายถึงใคร?
เป็น ดร.ท่านนึง ที่ทำให้เรื่องนี้ยุ่งพอสมควร ท่านไปอ้างตัวกับวัดพระเขี้ยวแก้วว่าเป็นคนของสถานทูต ทางวัดไม่รู้จึงให้เข้าไปใกล้ ตอนหลังวัดโทรมาถามสถานทูต ก็รู้ว่าไม่ใช่ วัดจึงระวังมากกว่เดิม
แจงชัด ปมพาช้างหนี
กาญจนาไม่ได้พูดว่าพาช้างหนี ได้ทราบว่าตกมัน และได้การย้ายที่อะค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าย้ายไปไหน เลยทำให้เราไม่ได้เจอ ส่วนพาหนีเนี่ย บางทีต้องเข้าใจว่า เวลาการนำเสนอเนี่ยจะให้มันดูน่าสนใจเนอะ แต่กาญจนไม่ได้ใช้คำว่าพาหนีเนอะ เพียงแต่ว่าย้ายไปอยู่ตรงไหนที่เราไม่รู้อ่า