คัดลอก URL แล้ว
‘พลังงานสะอาด’ กับสิ่งที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ

‘พลังงานสะอาด’ กับสิ่งที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ

KEY :

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะในประเทศไทยเอง รวมถึงในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยงแปลงไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่ร้อนจัด มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หรือ เกิดสภาพอากาศที่หนาวเย็น หิมะตกรุนแรงในต่างประเทศ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลายปี มันจึงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าโลกกำลังเปลี่ยนไป

ปัญหาด้านสภาพอากาศเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเผชิญกันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ก็ต้องร่วมเผชิญเช่นกัน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศ ที่เราทุกคนต้องเผชิญอยู่กับสิ่งนี้ในแต่ละวัน

ผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวจึงนำไปสู่การตื่นตัวของนานาประเทศรวมถึงปรเทศไทย ที่ต้องมาตีโจทย์แก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้โลกเผชิญกับสภาวะเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของเรานั้นอยู่ในช่วง ‘ภาวะโลกร้อน’ โดยมีต้นเหตุจากการกระทำของมนุษย์ ที่ได้เพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงต่าง ๆ ทั้งด้านการขนส่ง และการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ เป็นต้น ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกทั้งสิ้น

รวมถึงพฤติกรรมของมนุษย์ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งเราทราบกันดีว่าผืนป่านั้นเปรียบเสมือนปอดของโลก หรือ พื้นที่ของประเทศนั้น ๆ การทำลายป่าจึงเป็นการลดประสิทธิภาพในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปจากระบบบรรยากาศ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่มาจากพฤติกรรมของมนุษย์เช่นกัน

‘พลังงานสะอาด’ จึงเป็นอีกทางเลือกสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนา และนำมาใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละประเทศ

นานาประเทศ ตื่นตัวกับปัญหาโลกร้อนอย่างไร?

ย้อนไปเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ในการประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (COP21) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้มาการลงนามข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีผลผูกพันทางกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้รับการรับรองโดย 196 ประเทศ ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สาระสำคัญคือ การรักษาและควบคุมการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส พร้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 43% ภายในปี 2573

ซึ่งอย่างในสหรัฐฯ ได้มีนโยบายผลักดันการใช้พลังงานสะอาดทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงแบบเดิม เนื่องจากสหรัฐฯ เองเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่

โดยข้อมูลของทาง EPA เผยว่า มีการการปล่อยก๊าซทั้งหมดในปี 2564 เท่ากับ 6,340 ล้านเมตริกตัน ในสหรัฐฯ แบ่งเป็น การขนส่ง 28% / การผลิตไฟฟ้า 25% / อุตสาหกรรม 23% / อาคารพาณิชย์และที่อยู่อาศัย 13% / การเกษตร 10% / การใช้ที่ดินและป่าไม้ ชดเชย 12%

‘พลังงานสะอาด’ คืออะไร

อย่างที่กล่าวมาในข้างต้นว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิด ‘ภาวะโลกร้อน’ มาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากจนเกินไป ซึ่งมีต้นตอจากพลังงานจากฟอสซิล เช่น ถ่านหิน ปิโตรเลียม และ แก๊สธรรมชาติ ซึ่งปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มหาศาลอันเป็นสาเหตุโลกร้อน ‘พลังงานสะอาด’ จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานทดแทนที่ใช้อยู่แบบเดิม ๆ

‘พลังงานสะอาด’ หรือ พลังงานทดแทน ที่สำคัญเช่น พลังงานลม, พลังงานน้ำ, พลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานน้ำขึ้นน้ำลง, พลังงานคลื่น, พลังงานความร้อนใต้พิภพ, เชื้อเพลิงชีวภาพ พลังงานน้ำมันดิบ น้ำมันปาล์ม พลังงานน้ำมันพืช เป็นต้น

ซึ่ง ‘พลังงานสะอาด’ เหล่านี้ล้วนเป็นพลังงานที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และอีกส่วนหนึ่งคือ เป็นพลังงานที่เข้ามาทดแทนพลังงานรูปแบบเดิม และนอกจากนี้ยังเป็นกลุ่มพลังงานที่เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาพลังงานที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่

‘พลังงานสะอาด’ มีอะไรบ้าง

ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกพยายามศึกษาและค้นหาพลังงานทดแทนในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ และมีประสิทธิภาพดียิ่งกว่าพลังงานแบบเดิม เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ลดปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อมของโลกรวมทั้งช่วยประหยัดพลังงาน พลังงานสะอาด หรือ พลังงานทดแทน จึงเป็นพลังงานที่สามารถนำมาใช้ทดแทนพลังงานแบบเดิมได้อย่างไม่จำกัด เกิดการใช้หมุนเวียนได้เรื่อย ๆ โดยตัวอย่างของพลังงานทดแทน มีดังนี้

พลังงานแสงอาทิตย์

พลังงานลม

พลังงานความร้อนใต้พิภพ

พลังงานชีวภาพ

พลังงานน้ำ

ประเทศไทยมีแผนเรื่อง ‘พลังงานสะอาด’ อย่างไร

จากข้อมูลแผนงานของกระทรวงพลังงานในปี 2566 มุ่งสู่พลังงานสะอาดเพื่อตอบโจทย์สังคมยุคไร้คาร์บอน โดยได้วางแผนงานและโครงการแบ่งเป็น 4 มิติ ประกอบด้วย

มิติที่ 1

มิติที่ 2

มิติที่ 3

มิติที่ 4


ข้อมูล :


ข่าวที่เกี่ยวข้อง