คัดลอก URL แล้ว
ฝุ่น PM 2.5 เริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง หลังฝนเริ่มลดลง

ฝุ่น PM 2.5 เริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง หลังฝนเริ่มลดลง

KEY :

ภาคเหนือ

บริเวณภาคเหนือ มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากในช่วงวันที่ 1 – 10 พ.ค. การระบายอากาศในพื้นที่ภาคเหนือจะอยู่ในเกณ์ฑ์ที่ไม่ค่อยดีเป็นส่วนใหญ่ มีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้นเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา มีฝนตกในหลายพื้นที่ ช่วยลดปริมาณฝุ่นในอากาศ รวมถึงจุดความร้อนที่เกิดขึ้นจากการเผาลงได้

เมื่อฝนลดลง การระบายอากาศทำได้ไม่ดี ร่วมกับการมีจุดความร้อนในพื้นที่ที่เริ่มกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ฝุ่น PM 2.5 จึงกลับมามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง

คุณอาจจะสนใจเรื่องนี้
– เช็คพื้นที่เตรียมรับมือ “พายุฤดูร้อน” 24 – 26 เม.ย.นี้ – ฝน – ลม – ลูกเห็บ

ภาพ – ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น แนวโน้มฝุ่น PM 2.5 กลับมาสูงขึ้นอีกครั้งในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะทางตอนบนของภาคที่ติดกับประเทศลาว และทางตอนล่างที่ติดกับประเทศกัมพูชา

ซึ่งเป็นผลมาจากการระบายอากาศที่ค่อนข้างอ่อน ในช่วงวันที่ 2-3 พ.ค. นี้ และจะดีขึ้นในช่วงวันที่ 4 – 7 พ.ค. ทำให้ในช่วง 1-2 วันนี้ สถานการณ์ฝุ่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝุ่นควันสะสมตัวได้ และจะดีขึ้นในช่วงหลังวันที่ 4 นอกจาก การที่มีฝนในหลายพื้นที่ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดปริมาณฝุ่นในอากาศลงได้

ภาคกลาง – ภาคตะวันตก

ในพื้นที่บริเวณด้านตะวันตกของภาคกลางต่อเนื่องไปจนถึงภาคตะวันตก และทางตอนล่างของภาพเหนือ มีแนวโน้มจองฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานที่ผ่านมา โดยหลายพื้นที่มีปริมาณฝุ่นสูงเกินค่ามาตรฐานหลายพื้นที่

ซึ่งเป็นผลจากการระบายอากาศบริเวณภาคกลางยังคงอยู่ในเกณฑ์อ่อน สภาวะอากาศบริเวณใกล้ผิวพื้นมีการสลับเปิด-เปิด จึงทำให้ยังคงมีฝุ่นสะสมตัวได้บางส่วน ดังนั้นเมื่อมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง จึงช่วยลดฝุ่นควันที่สะสมตัวในอากาศลงได้ แต่เมื่อมีภาวะฝนลดลง ก็จะทำให้ฝุ่นควันกลับมาเพิ่มสูงขึ้นได้

ซึ่งตั้งแต่ในช่วงวันที่ 3 พ.ค. เป็นต้นไป การระบายอากาศจะลดลงอยู่ในเกณฑ์อ่อน มีภาวะอากาศค่อนข้างปิดไปจึงคาดว่า จะส่งผลให้ปริมาณฝุ่นมีโอกาสที่จะเพิ่มสูงขึ้นได้

ภาพ – ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คุณอาจจะสนใจเรื่องนี้
พื้นที่ปลอดภัยจาก PM 2.5 ไม่ถึง 1% และผู้ที่หายใจในอากาศที่ปลอดภัยมีเพียง 0.001% เท่านั้น

กรุงเทพฯ – ปริมณฑลสภาพอากาศ

บริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีแนวโน้มฝุ่น PM 2.5 ลดลงเมื่อเทียบกับเมื่อวานที่ผ่านมา โดยยังคงอยู่สเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งในระยะนี้ การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี แม้จะมีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้นก็ตาม

แต่จากการที่มีฝนช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่วมกับกระแสลมที่แรงขึ้น อากาศยกตัวมากขึ้น จึงคาดว่า ในช่วงวันที่ 2-8 พ.ค. นี้แนวโน้มสภาพอากาศจะอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง

10 จุดค่าฝุ่นสูงสุดในไทย

สำหรับ 10 จุดที่มีรายงานค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงที่สุดในประเทศเมื่อเวลา 08.00 น.จากรายงานของ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่

จุดตรวจวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5*
1บ้านห้วยบง
ต.ทาเหนือ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
496
2สถานีตรวจวัด รร.เสด็จวนชยางค์กูลวิทยา
ต.บ้านเสด็จ อ.เมือง จ.ลำปาง
185
3บ้านสหกรณ์ร่มเกล้า
ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
178
4บ้านดอยสันเกี๋ยง
ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
174
5รพ.ท่าสองยาง
ต.แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
164
6อบต.ป่าหุ่ง
ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย
144
7บ้านใหม่ปูเลย
ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
132
8รพ.แม่ระมาด
ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก
128
9สถานีตรวจวัด หมู่บ้านสบป้าด
ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
127
10จุดเฝ้าระวังฝุ่น PM ทต.เหมืองจี้
อ.เมือง จ.ลำพูน
123

* ค่าฝุ่นละอองเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

รายงานจุดความร้อนในภูมิภาค

รายงานจุดความร้อนจาก GISTDA ที่พบเมื่อวานที่ผ่านมาในภูมิภาคมีทั้งหมด 2,360 จุดลดลงจากเมื่อวันก่อนหน้าราว 1 พันจุด โดยเฉพาะในประเทศลาวที่ลดลงค่อนข้างมาก ในขณะที่เมียนมาร์ มีทิศทางที่ลดลงต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา

โดยพบในประเทศต่าง ๆ ดังนี้

สำหรับประเทศไทยแนวโน้มจุดความร้อนในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อ หลังจากลดลงในช่วงก่อนหน้า ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดจำนวนจุดความร้อนกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง โดยพบทั้งหมด 444 จุด เกาะกลุ่มอยู่ในบริเวณจังหวัดลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ ในขณะที่บริเวณภาคกลาง มีแนวโน้มที่พบเกาะกลุ่มในพื้นที่จังหวัด สิงห์บุรี สุพรรณบุรี อยุธยา

โดย 10 จังหวัดที่พบจุดความร้อนสูงที่สุดได้แก่

จังหวัดจุดความร้อน
1ลำปาง75
2เชียงใหม่45
3แม่ฮ่องสอน38
4พะเยา36
5เชียงราย31
6ตาก29
7แพร่26
8เพชรบูรณ์25
9สุโขทัย24
10ลพบุรี24

ข่าวที่เกี่ยวข้อง