คัดลอก URL แล้ว
ฝุ่น PM 2.5 ยังเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ / เหนือยังวิกฤติต่อเนื่อง

ฝุ่น PM 2.5 ยังเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ / เหนือยังวิกฤติต่อเนื่อง

KEY :

แนวโน้มฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยส่วนใหญ่ในขณะนี้ ยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบน

ภาคเหนือ

ในภาคเหนือ แนวโน้มของปริมาณฝุ่นที่ตรวจวัดได้ในเช้าวันนี้ ลดลงเล็กน้อยในหลายพื้นที่ แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยการลดลงของปริมาณฝุ่นในภาคเหนือมาจาก การยกตัวของอากาศที่มากขึ้นในช่วงวันที่ 20 -22 เม.ย. ร่วมกับการมีฝนในบางพื้นที่ ส่งผลให้ฝุ่นควันสะสมตัวได้น้อยลง ในช่วงสั้น ๆ

โดยคาดว่า สถานการณ์ในช่วงหลังจากวันที่ 23 เม.ย. เป็นต้นไป ปริมาณฝุ่นน่าจะลดลงได้มากขึ้น จากการที่ลมระดับบนมีกำลังแรงมากขึ้น การระบายอากาศทำได้ดีขึ้น ร่วมกับการมีฝนบางแห่งในพื้นที่ภาคเหนือ

ภาพ – ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สำหรับในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณทางตอนบนของภาคมีแนวโน้มลดลง แต่ในตอนล่างของภาคมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์ในภาพรวม ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่เริ่มเป็นอันตรายต่อสุขภาพในหลายพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 24 – 27 เม.ย. แนวโน้มการระบายอากาศจะทำได้ลดลง ทำให้ฝุ่นควันน่าจะสะสมได้มากขึ้น ดังนั้นจึงควรเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในช่วงดังกล่าวต่อไป

ภาคกลาง – ภาคตะวันตก

ภาคกลางและภาคตะวันตก ยังคงมีฝุ่นสูงเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มส่งผลกระบต่อสุขภาพ โดยในระยะนี้ แม้ว่าการระบายอากาศในพื้นที่จะอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ร่วมกับการมีรายงานจุดความร้อนบริเวณภาคกลางที่มากขึ้น ทำให้ฝุ่นควันจะสามารถสะสมตัวได้เพิ่มขึ้น

ภาพ – ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ภาคใต้

ภาคใต้แนวโน้มฝุ่นลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงดีเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าในระยะนี้ อัตราการระบายอากาศจะทำได้ไม่ค่อยดีนัก แต่มีภาวะอากาศเปิด การยกตัวของอากาศทำได้ดี มีฝนตกในพื้นที่ ส่งผลให้ฝุ่นควันสะสมตัวได้น้อย โดยเฉพาะทางตอนล่างของภาคที่มีสภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี

คุณอาจจะสนใจเรื่องนี้
พื้นที่ปลอดภัยจาก PM 2.5 ไม่ถึง 1% และผู้ที่หายใจในอากาศที่ปลอดภัยมีเพียง 0.001% เท่านั้น

กรุงเทพฯ – ปริมณฑลสภาพอากาศยังเกินค่ามาตรฐาน

สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล แนวโน้มยังคงใกล้เคียงกับเมื่อวานที่ผ่านมา โดยแม้ว่า ในระยะนี้บริเวณกรุงเทพฯ ปริมณฑลจะมีการระบายอกาาศที่อยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังคงมีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้นต่อเนื่อง ทำให้สภาพอากาศส่วนใหญ่จึงยังคงมีฝุ่นสะสมตัวได้ และคุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง – เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในหลายพื้นที่ด้วยกัน

สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา พบพื้นที่ที่มีฝุ่นสูงเกินค่ามาตรฐานจำนวน 37 พื้นที่ด้วยกัน ซึ่งจำนวนพื้นที่นั้นลดลงจากเมื่อวานนี้ แต่ปริมาณฝุ่นยังคงใกล้เคียงกัน

ซึ่งในช่วง 1-2 วันนี้ คาดว่า ปริมาณฝุ่นจะยังคงสูงในบางพื้นที่ และจะค่อย ๆ ดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. เป็นต้นไป

โดย 10 พื้นที่ที่พบค่าฝุ่น PM 2.5 สูงที่สุดในกรุงเทพฯ ได้แก่

เขตปริมาณฝุ่น PM 2.5*
1เขตบางขุนเทียน (สถานี คพ.)70
2เขตคลองสาน62
3เขตสัมพันธวงศ์61
4เขตหนองแขม61
5เขตปทุมวัน60
6เขตบางนา59
7เขตทวีวัฒนา59
8เขตบางกอกน้อย58
9เขตคลองเตย58
10เขตประเวศ57

10 จุดค่าฝุ่นสูงสุดในไทย

สำหรับ 10 จุดที่มีรายงานค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงที่สุดในประเทศเมื่อเวลา 08.00 น.จากรายงานของ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่

จุดตรวจวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5*
1รพ.แก้งสนามนาง
ต.แก้งสนามนาง อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา
663**
2รพ.บ้านหมี่
ต.บ้านหมี่ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี
443
3รพ.สต.บ้านใหม่
ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
368
4บ้านปางมะเยา หย่อมบ้านห้วยต้นโชค
ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
356
5รพ.สต.บ้านงิ้วเฒ่า
ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย
350
6รพ.สต.บ้านปางมะเยา
ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
332
7อบต.ป่าหุ่ง
ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย
326
8บ้านป่าแขม
ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
319
9บ้านหนองบัว
ต.แม่แวน อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
309
10รพ.สต.บ้านแกน้อย
จ.เชียงใหม่
298

* ค่าฝุ่นละอองเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
** มีค่าฝุ่นที่เพิ่มสูงขึ้นมากผิดปรกติ รอการตรวจทานข้อมูลเพิ่มเติม

รายงานจุดความร้อนในภูมิภาค

รายงานจุดความร้อนที่เกิดขึ้นจากการเผาในพื้นที่ต่างในภูมิภาคมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นแม้จะยังไม่พุ่งสูงมากก็ตาม โดยรายงานของวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา พบจุดความร้อนทั้งหมด 10,829 จุด

ซึ่งจำนวนจุดความร้อนที่พบในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคมีจำนวนดังต่อไปนี้

ในพื้นที่ประเทศไทย พบจุดความร้อนในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัดจำนวน 544 จุด โดยแนวโน้มระยะนี้ พบว่า การเผาในพื้นที่ภาคเหนือมีสัดส่วนที่ลดลงและเริ่มทรงตัว ในขณะที่การเผาบริเวณภาคกลางมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

สำหรับ 10 จังหวัดที่พบจุดความร้อนสูงที่สุดได้แก่

จังหวัดจุดความร้อน
1เชียงราย130
2เชียงใหม่60
3น่าน58
4กาญจนบุรี56
5กำแพงเพชร43
6แม่ฮ่องสอน37
7เพชรบูรณ์30
8อุทัยธานี29
9นครสวรรค์26
10สุพรรณบุรี26

ข่าวที่เกี่ยวข้อง