คัดลอก URL แล้ว
ที่มาที่ไป ทำไม Silicon Valley Bank ของสหรัฐฯ ถึงล้ม

ที่มาที่ไป ทำไม Silicon Valley Bank ของสหรัฐฯ ถึงล้ม

KEY :

Silicon Valley Bank หนึ่งในธนาคารชื่อดังที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการไอที มาเป็นเวลากว่า 30 ปี ก็ต้องเผชิญกับปัญหาอย่างใหญ่หลวง และนำไปสู่การที่หน่วยงานกำกับดูแลการธนาคารของรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้สั่งระงับการให้บริการของ SVB ธนาคารแห่งใหญ่อันดับที่ 16 ของประเทศ และสั่งให้บรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลสหรัฐฯ ( Federal Deposit Insurance Corporation, FDIC) เข้ามาเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ของ SVB

SVB เป็นใคร ?

Silicon Valley Bank เป็นธนาคารที่ก่อตั้งมานานเกือบ 40 ปี และใหญ่เป็นอันดับ 16 ของสหรัฐฯ โดยมีสินทรัพย์กว่า 2.09 แสนล้านเหรียญฯ ซึ่งที่ผ่านมา SVB ได้ประกอบธุรกิจกับกลุ่มเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยเฉพาะกลุ่ม Startup ในอย่างยาวนาน

ที่ผ่านมา SVB เป็นผู้จัดหาเงินทุนให้กับ Startup หลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Pinterest, Fitbits รวมถึงกลุ่มของคริปโตเคอเรนซี่หลายแห่ง คาดการณ์ว่า กว่าครึ่งของ Startup ชื่อดังหลายบริษัทมีความเกี่ยวข้องกับ SVB

Q1 2023 Mid Quarter Update ของ SVB เมื่อ 8 มี.ค. 2023 ที่ผ่านมา
(ภาพ – svb.com)

เกิดอะไรขึ้นกับ SVB ?

ซึ่งเป็นผลมาจากหลาย ๆ ประเด็นรวมกัน โดยประเด็นหลัก ๆ คือ

  1. การที่ FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในประเทศ ส่งผลให้ต้นทุนของธนาคารเพิ่มสูงขึ้น
  2. การลงทุนในกลุ่ม Startup ชะลอตัว ส่งผลให้ลูกค้าของ SVB หลายรายจำเป็นต้องถอนเงินออกมาใช้จ่าย และเสริมสภาพคล่อง
  3. กลุ่มบริษัทคริปโตเคอร์เรนซีหลายแห่ง ประสบปัญหาในช่วงที่ผ่านมา หลายแห่งเผชิญกับภาวะล้มละลาย
  4. SVB เองจึงจำเป็นต้องขายพันธบัตรฯ รวมถึงขายหุ้นออกมา แบบขาดทุน เพื่อแปลงสินทรัพย์เป็นเงินสด กระทบความเชื่อมั่น

ซึ่งจากสิ่งที่เกิดขึ้นจึงส่งผลกระทบต่อนักลงทุนและลูกค้าของธนาคาร ต่างแห่กันมาถอนเงินมากถึง 1 ใน 4 ของเงินฝากทั้งหมด ซึ่ง SVB เผชิญสภาวะที่เรียกว่า “Bank Run” หรือภาวะที่ผู้ฝากเงินเชื่อว่า ธนาคารกำลังจะล้มละลาย จึงรีบมาถอนเงินออกจากธนาคาร และนำไปสู่การขาดสภาพคล่อง และหน่วยงานของรัฐ ต้องเข้ามาจัดการในครั้งนี้

ประกาศขายสินทรัพย์และขายหุ้นมูลค่า 1.75 พันล้านดอลลาร์ ของ SVB เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
(ภาพ – SVB.com)

ทำไมคนถึงแห่ไปถอนเงินออก?

สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความไม่มั่นใจว่า ธนาคารจะดำเนินกิจการต่อได้หรือไม่ หลังจากประเด็นของการขายพันธบัตรแบบยอมขาดทุน เพื่อเสริมสภาพคล่อง ส่งผลให้หุ้นของ SVB ร่วงลง ทำให้ผู้ถือหุ้นเริ่มเทขายหุ้นของ SVB ออกมา

ในขณะเดียวกัน SVB ก็พยายามประกาศระดมทุนจากนักลงทุนเพิ่มเติม เพื่อชดเชยกับการขาดทุนที่เกิดขึ้นทั้งจากการขายพันธบัตร และหุ้น สิ่งที่เกิดขึ้นจึงกลายเป็นลูกโซ่ต่อ ๆ กัน และผู้ที่มีเงินฝากของธนาคาร แห่ไปถอนเงินเพราะกลัวจะธนาคารจะปิดตัวลง ก่อนที่จะได้เงิน ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ ยิ่งทำให้ SVB ขาดสภาพคล่องมากยิ่งขึ้น จนหน่วยงานรัฐต้องเข้ามาดูแล

คนที่ฝากเงินไว้ทำอย่างไร?

สำหรับเงินฝากในธนาคาร SVB ในขณะนี้จะมีบรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลสหรัฐฯ ( Federal Deposit Insurance Corporation, FDIC) เข้ามาดูแล จัดการต่อไป โดยผู้ที่เงินฝากไม่เกิน 2.5 แสนเหรียญฯ สหรัฐฯ จะยังคงสามารถเข้าถึงเงินที่คงเหลือในระบบได้ หรือพูดง่าย ๆ คือ “ยังได้เงินคืน”

แต่สำหรับผู้ที่มีเงินฝากมากกว่านั้น ก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของทาง FDIC และก็ยังต้องลุ้นว่า จะสามารถเข้าถึงเงินส่วนที่เกินกว่านั้นได้หรือไม่

ลุกลามแค่ไหน ?

สิ่งที่เกิดขึ้นกับ SVB นั้นยังคงต้องเฝ้าติดตาม เนื่องจาก SVB มีสาขาอยู่ในประเทศอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น จีน เดนมาร์ก เยอรมนี อินเดีย เป็นต้น และเชื่อมโยงกับกลุ่มบริษัท Startup ต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธนาคาร SVB ทั้งในแง่ของเงินทุน เงินฝาก รวมถึงเงินเดือนพนักงานด้วย

ซึ่งในขณะนี้ทางด้านของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ได้ประกาศว่า จะมีการจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” เพื่อปกป้องสถาบันการเงินต่าง ๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการระงับกิจการของ SVB ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้หลายประเทศยังประเมินว่า การล้มลงของ SVB นั้นจะยังคงอยู่ในวงจำกัด รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยมีธุรกรรมโดยรวมกับกลุ่มบริษัท Startup น้อยกว่า 1% และถือครอบสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับที่ต่ำ จึงมีผลกระทบในวงจำกัดเท่านั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง