คัดลอก URL แล้ว
ผลบอล ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ประจำวันที่ 10 ธันวาคม 2565

ผลบอล ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ประจำวันที่ 10 ธันวาคม 2565

KEY :

โมร็อกโก คว่ำโปรตุเกส สร้างประวัติศาสตร์ทีมแรกจากแอฟริกาที่ผ่านเข้าสู่รองฯได้สำเร็จ ฟุตบอลโลก202

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้ายระหว่าง โมร็อกโก พบ โปรตุเกส ทำการแข่งขันเวลา 22.00 น. เกมนี้น่าจะอึดอัดกับทั้งสองทีม เพราะทางฝั่งโมร็อกโกแสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขามีเกมรับที่มีวินัยและอดทนมากแค่ไหน ส่วนทางฝั่งโปรตุเกสเองก็คงไม่อยากจะเสียประตูให้ก่อนเหมือนกัน แต่ก็ต้องพยายามที่จะพังประตูนำให้ได้ด้วย

🏃ครึ่งแรก

⚽️เปิดเกมมาด้วยการครองบอลที่มากกว่านิดหน่อยของโปรตุเกส แต่ก็เจาะโมร็อกโกยังไม่ได้ และยิ่งเล่นเหมือนทางฝั่งโปรตุเกสที่เริ่มจะตื้อๆไปเอง ส่วนทางโมร็อกโก ใช้จังหวะสวนกลับได้ดี

⚽️Goal! นาที 42 โมร็อกโก ออกนำไปก่อนจากจังหวะขึ้นไปเทคตัวโหม่งของ ยูเซฟ อองเนไซรี โดยที่ คอสตา กระโดดออกมาตัดบอล แต่ไม่เจอ โมร็อกโก ออกนำ โปรตุเกส 1 – 0

⚽️นาที 45 โปรตุเกสได้ลุ้นลูกตีเสมอ จากจังหวะที่บรูโน เฟร์นานเดส ได้ตวัดด้วยขวา บอลลอยผ่านโบโนไปแล้ว แต่ไปชนคานกระดอนออกมา และหมดเวลาครึ่งแรกไปโดยมีเพียงสกอร์เดียวที่โมร็อกโกทำได้

🏃ครึ่งหลัง

⚽️เริ่มเกมมาเป็นทางฝั่งโปรตุเกส ที่เริ่มกดดันใส่เกมรับโมร็อกโกได้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากมีการเปลี่ยนตัว โดยส่ง คริสเตียโน โรนัลโด ลงมาและก็เป็นตัวเชื่อมเกมแดนกลางของโปรตุเกสได้เป็นอย่างดี โดยสามารถสร้างจังหวะเข้าทำได้หลายครั้ง แต่ก็ยังส่งบอลไปก้นตาข่ายของโมร็อกโกไม่ได้ 

⚽️นาที 82 โปรตุเกสยังคงบุกกดดันโมร็อกโกอย่างต่อเนื่อง และได้ลุ้นตีเสมอจากจังหวะที่โรนัลโดวิ่งจี้เข้าในแล้วป้ายส่งให้เจา เฟลิกซ์ ยิงด้วยซ้าย แต่โบโน่ ผู้รักษาประตูโมร็อกโกก็ยังเซพออกมาได้

⚽️นาที 90 คริสเตียโน โรนัลโด ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของคริสเตียโน โรนัลโด แต่บอลก็ยังไม่ผ่านโบโน่ 

หมดเวลา โมร็อกโก คว่ำ โปรตุเกส 1 – 0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยเป็นทีมจากทวีฟแอฟริกาทีมแรกในประประวัติศาสตร์ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบนี้ได้สำเร็จ 

…………….

ฝรั่งเศส เฉือนชนะ อังกฤษ เข้ารอบรองฯ ฟุตบอลโลก2022 

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง อังกฤษ พบ ฝรั่งเศส ทำการแข่งขันเวลา 02.00 น. เกมนี้ถือว่าคู่คี่มากๆ เพราะต่างก็มีตัวทำเกมรุก และเกมรับที่ดีไม่แพ้กัน อังกฤษที่มีคลื่นลูกใหม่ แต่เกมรุกของฝรั่งเศสก็จัดจ้าน 

🏃ครึ่งแรก 

⚽️เป็นทางฝรั่งเศสที่เริ่มทำเกมบุกเข้าใส่อังกฤษก่อน แต่เกมแดนกลางของทั้งสองทีมยังทำหน้าที่กันได้เป็นอย่างดี โดยมีการชิงตัดจังหวะก่อนที่บอลจะเคลื่อนเข้าไปยังพื้นที่อันตราย ซึ่งเปอร์เซนต์การครองบอลก็ยังคงไม่หนีห่างกันมากนัก

⚽️นาที 11 ฝรั่งเศสได้ทักทายก่อน จากจังหวะขึ้นบอลเร็วทางขวา เปิดเข้าในมา โอลิวิเยร์ ชิรูว์ ล้มตัวโหม่งได้ แต่บอลก็ยังไปตรงตัว จอร์แดน พิกฟอร์ด นายทวารอังกฤษ

⚽️Goal! นาที 17 ฝรั่งเศสได้เฮก่อน จังหวะตัดบอลได้จากบูกาโย่ ชาก้า ส่งบอลผ่านขึ้นเร็วไปทางกรีซมันน์ แล้วเปิดเข้าในให้ ชูอาเมนี่ ยิงด้วยขวา กดทีเดียวบอลผ่านพิกฟอร์ดเข้าไป ฝรั่งเศส ขึ้นนำ อังกฤษ 1 – 0

⚽️นาที 21 อังกฤษได้ลุ้นจากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษของฝรั่งเศส ลุค ชอว์ ยิงด้วยซ้าย บอลเลี้ยวอ้อมกำแพง แต่ยังไปตรงตัวฮูโก้ ยอริส นายทวารฝรั่งเศสรับไว้ได้ 

⚽️ถัดมาเพียงนาทีเดียว อังกฤษได้ลุ้นลูกตีเสมออีกครั้ง จากจังหวะที่แฮรี่ เคน หนีการประกบของอูปาเมกาโน่ และได้ดีดด้วยไซด์ก้อย แต่ก็ยังไปติด ฮูโก้ ยอริส ออกมาบล๊อกได้หวุดหวิด

⚽️นาที 29 แฮรี่ เคน ได้กดอีกครั้งหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าหากรอบประตูของฝรั่งเศส แต่ทาง ฮูโก้ ยอริส ก็ยังทุบออกไปได้

ท้ายครึ่งแรก เป็นทางอังกฤษที่ได้ครองบอลมากกว่าฝรั่งเศสอยู่พอสมควร แต่ก็ยังทำประตูตีเสมอไม่ได้ และถึงแม้ฝรั่งเศสจะตัดบอลได้ ก็ไม่ได้รีบทำเกมรุกขึ้นมา เน้นการครองบอล และออกบอลให้แน่นอน

และก็หมดครึ่งแรกไป อังกฤษ ตามหลัง ฝรั่งเศส 0 – 1

🏃ครึ่งหลัง

⚽️นาที 48 อังกฤษเริ่มเกมได้อย่างดุดันน่าได้ประตูตีเสมอ เมื่อจู้ด บิลลิ่งแฮม ได้ยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่ก็เป็น ฮูโก้ ยอริส ผวาปัดออกหลังไปได้

⚽️Goal! นาที 54 ฝรั่งเศส เสียจุดโทษให้กับอังกฤษ จากจังหวะที่ชูอาเมนี่ ไปรวบขาของบูกาโย่ ชาก้า ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที แฮรี่ เคน รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด อังกฤษ ตามตีเสมอ ฝรั่งเศส 1 – 1

⚽️นาที 70 อังกฤษเกือบได้ประตูนำจากจังหวะฟรีคิกที่เปิดเข้ามา แฮรี่ แมคไกวร์ได้โหม่งบอลเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

⚽️ถัดมาอีก 2 นาที ฝรั่งเศสระส่ำหนัก จากจังหวะที่ลุค ชอว์ หลุดมาทางกราบซ้ายแล้วเปิดเข้าไปกลางประตู แต่ทางบูกาโย่ ซาก้า เข้าไปถึงบอลทีหลังเฮอร์นานเดซ 

⚽️Goal! นาที 78 ฝรั่งเศสกลับขึ้นมานำอีกครั้ง จากจังหวะที่กรีซมันน์ เปิดจากด้านข้างเข้ามาให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูว์ ได้โหม่งเข้าไป ฝรั่งเศส กลับมานำ อังกฤษ 2 – 1

⚽️นาที 83 อังกฤษได้จุดโทษอีกครั้ง จากจังหวะที่เมสัน เมาท์ ไปโดนแฮร์นานเดซกระแทกจากด้านหลังในกรอบเขตโทษ แฮรี่ เคน รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงเหินข้ามคานออกไปเยอะ อังกฤษ ยังตามหลังฝรั่งเศสอยู่ 1 – 2 

ช่วงเวลาที่เหลือ แม้ทางอังกฤษจะพยายามโหมบุกเพื่อจะตีเสมอ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ อังกฤษ แพ้ ฝรั่งเศส 1 – 2 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง