คัดลอก URL แล้ว
ความรักหรือความกดดัน? เมื่อความคาดหวังจากครอบครัว ส่งผลต่อสุขภาพจิต

ความรักหรือความกดดัน? เมื่อความคาดหวังจากครอบครัว ส่งผลต่อสุขภาพจิต

สำหรับหลายคน“ครอบครัว” คือกำลังใจและความรักที่คอยผลักดันให้เราเติบโต แต่สำหรับบางคน“ครอบครัว” กลับกลายเป็นความกดดันที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย ท้อ และห่างไกลจากความสุขในใจทีละน้อย

เมื่อความรักแปรเปลี่ยนเป็นความคาดหวังที่หนักเกินแบก

พ่อแม่หรือคนในครอบครัวมักอยากเห็นเราเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ มีหน้าที่การงานมั่นคง เรียนดี ได้รับการยอมรับ แต่เมื่อความคาดหวังเหล่านั้นมีมากเกินไป หรือถูกส่งต่อมาในรูปแบบของคำพูดที่กดดัน เช่น

“ต้องเก่งกว่านี้”

“ทำได้แค่นี้เองเหรอ?”

“คนอื่นยังทำได้ ทำไมเธอจะทำไม่ได้?”

ความหวังดีที่เกินพอดีเหล่านี้ อาจค่อย ๆ สะสมกลายเป็นความเครียด ความกังวล และความรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะซึมเศร้าในที่สุด

สัญญาณที่บอกว่าความคาดหวังกำลังกลายเป็นแรงกดดัน

· รู้สึกวิตกกังวลเมื่อต้องรายงานความคืบหน้า หรือพูดคุยกับครอบครัว

· กลัวความผิดหวังและคำตำหนิจากคนในบ้าน

· ทำอะไรสำเร็จก็ยังไม่รู้สึกภูมิใจ เพราะกลัวว่ามันยังไม่ดีพอ

· อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เหนื่อยใจ ไม่อยากลุกขึ้นมาทำอะไร

· รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว แม้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว

· เริ่มมีความคิดที่อยากหนีหายไป หรือรู้สึกไร้ค่า

เมื่อความคาดหวังกลายเป็นภาระใจ ควรทำอย่างไร?

1.รับฟังเสียงข้างในตัวเอง

หยุดและถามตัวเองบ่อย ๆ ว่า… สิ่งที่กำลังทำอยู่นี้คือความต้องการของเรา หรือเพื่อให้ใครบางคนพอใจ? เรามีความสุขหรือไม่กับสิ่งที่ทำอยู่?

2.สื่อสารด้วยความเข้าใจ

แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การพูดคุยเปิดใจอย่างใจเย็นกับคนในครอบครัวว่า ความคาดหวังบางอย่างกำลังสร้างความกดดัน อาจช่วยให้พวกเขาได้ทบทวนมุมมอง และเริ่มเข้าใจความรู้สึกของเราได้มากขึ้น

3.ให้คุณค่ากับตัวเอง

อย่าลืมว่ามาตรฐานความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การที่คุณพยายามเต็มที่แล้ว นั่นคือความสำเร็จในแบบของคุณ

4.ขอความช่วยเหลือเมื่อรู้สึกไม่ไหว

ถ้าความกดดันเริ่มส่งผลต่อจิตใจ จนรู้สึกเศร้าลึก ๆ นอนไม่หลับ หมดเรี่ยวแรง หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่เหลือที่ให้ยืน การเข้าพบนักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ ไม่ได้แปลว่าคุณอ่อนแอ แต่คือการดูแลใจตัวเองอย่างกล้าหาญ

ขอบคุณข้อมูลจาก : BMHH โรงพยาบาลสุขภาพจิต


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง