โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เกิดจากการหลอดเลือดสมองมีการอุดตัน ตีบ หรือแตก ส่งผลให้สมองบริเวณดังกล่าวเกิดการบาดเจ็บ หรือขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้เซลล์สมองเสียหาย ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการ เช่น ปากเบี้ยวหน้าเบี้ยว พูดไม่ชัดหรือพูดไม่ได้ แขนขาอ่อนแรง ชาครึ่งซีก หรือเดินเซ มักเกิดในผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคไขมันในเลือดสูง
4 สาเหตุ ผู้สูงอายุมักเกิดหลอดเลือดสมองแตกในห้องน้ำ
1.ขณะอาบน้ำเย็นทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงขึ้น จนหลอดเลือดในสมองแตก หรือเมื่อความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลอดเลือดตอบสนองด้วยการหดตัว จากหลอดเลือดที่เคยตีบอยู่ก็กลายเป็นหลอดเลือดตัน ส่งผลให้สมองขาดเลือด เป็นเหตุให้ล้มในห้องน้ำและอาจกลายเป็นอัมพาต
2.ปรับเปลี่ยนอิริยาบถอย่างรวดเร็ว เช่น รีบลุกออกจากที่นอน เปลี่ยนท่านั่งเป็นท่ายืนเร็วเกินไป ส่งผลให้ความดันโลหิตในสมองสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนอาจทำให้หลอดเลือดในสมองแตก
3.การเบ่งถ่ายในห้องน้ำ หรืออาการอื่น ๆ เช่น การไอ การจาม จะทำให้แรงดันในสมองสูงขึ้นไปถึง 10 เท่า
4.คนที่มีโรคประจำตัวความดันโลหิต อาจจะต้องคอยสังเกตอาการตัวเอง เพราะว่าต้องกินยารักษาโรคความดันทุกเช้า แต่ยาความดันโลหิตมักออกฤทธิ์ระยะสั้นส่งผลให้ยาอาจหมดฤทธิ์ในช่วงเย็น จึงเป็นจุดอ่อนทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและอาจก่อให้เกิดอาการหลอดเลือดสมองโดยไม่รู้ตัว
วิธีป้องกันหลอดเลือดสมองแตกในห้องน้ำ
· คนที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง ควรระมัดระวังในการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ โดยควรลุกขึ้นยืนช้า ๆ ค่อยเป็นค่อยไป และควรหลีกเลี่ยงการยืนนาน ๆ
· หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัด และควรดูแลสุขภาพจิตให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงความเครียด ความวิตกกังวล
ทั้งนี้ หากพบตัวเองหรือบุคคลใกล้ชิดมีอาการเข้าข่ายโรคหลอดเลือดสมองควรรีบมาโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
ขอบคุณข้อมูลจาก : นายแพทย์พงศกร พงศาพาส ประสาทศัลยแพทย์ โรงพยาบาลเวชธานี