คัดลอก URL แล้ว
5 วิธีสร้างความสุข ด้วยตัวเอง ใช้ชีวิตให้มีความสุขต้องทำอย่างไร?

5 วิธีสร้างความสุข ด้วยตัวเอง ใช้ชีวิตให้มีความสุขต้องทำอย่างไร?

ท่ามกลางโลกใบนี้ที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ผู้คนใช้ชีวิตไปกับการเร่งรีบแทบไม่มีเวลาหยุดพัก มีผลต่อจิตใจ เช่น เกิดความเครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ หรือซึมเศร้า การใช้ชีวิตอยู่ให้มีความสุขอย่างแท้จริงจึงดูเหมือนเป็นเรื่องยากมากขึ้นทุกที ทั้งที่ความเป็นจริงนั้น มันอยู่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด เพียงแต่เรามักจะมองข้ามไปอย่างไม่ทันรู้ตัว แล้วการใช้ชีวิตให้มีความสุขต้องทำอย่างไร?

ใช้ชีวิตให้มีความสุขต้องทำอย่างไร?

ออกกำลังกายดูแลได้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ

เพราะสุขภาพกายและสุขภาพจิตมีความสัมพันธ์แยกขาดออกจากกันไม่ได้ ดังคำที่ว่า “จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว” หมายถึงจิตเป็นตัวกำหนดและควบคุมร่างกาย หรือกล่าวได้ว่า สุขภาพจิตดีมักอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์และแข็งแรง แต่หากร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อย ๆ จิตใจก็จะหดหู่ ไม่สดชื่นแจ่มใส ดังนั้น การใช้ชีวิตให้ดีมีความสุข จึงควรดูแลรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจควบคู่กันไป

วิธีปฏิบัติง่าย ๆ ที่สามารถดูแลให้ร่างกายและจิตใจมีความสุขไปพร้อม ๆ กัน คือ การออกกำลังกาย ซึ่งทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่ควรทำสม่ำเสมอ เพราะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีเรี่ยวแรงและพละกำลังมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ส่วนในแง่ของสุขภาพจิต การออกกำลังกายจะทำให้หัวใจเต้นแรง มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองเยอะขึ้น เพิ่มความแข็งแรงให้กับสมอง ส่งผลดีต่อการหลั่งฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน (Endorphin) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “สารสุข” ซึ่งออกกำลังกายแค่ 20 นาทีขึ้นไป ก็สามารถกระตุ้นการหลั่งของเอ็นโดรฟินได้แล้ว

ทั้งนี้การออกกำลังกาย ควรหลีกเลี่ยงในช่วงค่ำ ๆ ถ้าเป็นไปได้ออกกำลังกายให้เสร็จก่อนหนึ่งทุ่ม เพราะส่วนหนึ่งการออกกำลังกายจะไปกระตุ้นให้สมองตื่นตัว ไม่เหมาะกับช่วงเวลาที่ร่างกายต้องได้รับการพักผ่อน

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกาย

เพราะการเลือกรับประทานอาหารเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสุขภาพที่ดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพใจตามมา ดังนั้น จึงควรเลือกรับประทานอาหารให้สมดุล ทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เลือกอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการสูง เช่น ผักใบเขียว รวมถึงผลไม้ ลดการบริโภคอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และอื่น ๆ และขาดไม่ได้ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยรักษาความสมดุลของระดับน้ำในร่างกาย

แค่รู้จัก “ให้” สุขง่าย ๆ ทั้งผู้ให้และผู้รับ

อีกหนึ่งวิธีที่ทำแล้วทั้งตัวเราและคนรอบข้างมีความสุข นั่นก็คือ “การให้” ซึ่งมีหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องให้เงินทอง หรือสิ่งใหญ่โต อาจแค่ให้สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น รอยยิ้ม เป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดและทุกคนทำได้ ให้กำลังใจ ให้ความรู้ หรือให้ความช่วยเหลือกับคนอื่นเท่าที่สามารถทำได้ เพียงเท่านั้นก็จะรู้สึกอิ่มเอม เพราะทำให้รู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าและมีความหมาย เกิดความชื่นชมตัวเอง รวมทั้งทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างเราและคนรอบข้าง โดยการได้ทำสิ่งดี ๆ ให้ผู้อื่นมีความสุข ตัวเอราก็จะมีความสุขไปด้วย

ทำกิจกรรมผ่อนคลาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

นอนน้อย นอนไม่หลับ มักสร้างความหงุดหงิดอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตที่ดี ดังนั้น ต้องรักษาสุขนิสัยการนอนให้ดี คือ เข้านอนและตื่นให้ตรงเวลา ไม่นอนกลางวัน แต่ถ้านอนไม่หลับให้ลองหากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำดู เช่น นั่งโซฟาฟังเพลงเบา ๆ ดื่มนม กินกล้วน หรืออาหารที่มีกาบา จะช่วยให้หลับสบายง่ายยิ่งขึ้น

มีสติรู้ทันจิต คิดบวกให้เป็น มองปัญหาไม่เกินจริง

การมี “สติ” รู้เท่าทันความคิดเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหลายครั้งเรามักปล่อยให้ความคิดไหลไปเรื่อย บางครั้งปรุงแต่งคิดลบมองปัญหาไปใหญ่โตเกินความเป็นจริง ท่องจำไว้ให้ขึ้นใจว่าเหรียญมีสองด้าน ดังนั้น เมื่อเจอด้านร้ายคิดลบต้องพยายามมองหามุมบวกให้เจอด้วย ชีวิตเราก็จะอยู่บนความเป็นจริงมากขึ้น และสิ่งสำคัญต้องไม่เก็บทุกเรื่องราวมาคิดเล็กคิดน้อยจนเกิดความเครียด เพราะจะทำให้เกิดสารพิษต่อเซลสมองจนเสียสมดุล

เพราะความสุขขึ้นอยู่กับมุมมองและความคิดของแต่ละคนมากสิ่งใด ไม่ใช่ใครอื่นหรือวัตถุสิ่งของ เราแค่ดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจ รวมถึงความคิด ก็สามารถใช้ชีวิตให้อยู่ดีมีความสุขได้ไม่ยาก เริ่มง่าย ๆ ได้ด้วยตัวเราเอง

ขอบคุณที่มา: คุณฐิติมา พัฒนโพธิกุล นักจิตวิทยาคลินิก โรงพยาบาลBMHH – Bangkok Mental Health Hospital


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง