หลายคนอาจจะมีความเข้าใจว่า การทำหมันชาย อาจจะทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง ในบทความนี้ มีเกร็ดความรู้ดีๆ จาก ศูนย์ศัลยกรรม (General Surgery Center) โรงพยาบาลนวเวช มาบอกถึง ขั้นตอนวิธีการทำหมันชาย และข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำหมัน เพื่อทำให้คุณผู้ชายมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องการทำหมันมากยิ่งขึ้น
การทำหมันชายคืออะไร?
การทำหมันชาย (Vasectomy) คือ วิธีการคุมกำเนิดแบบถาวร โดยการตัดและผูกท่อนำอสุจิของเพศชาย เพื่อไม่ให้มีการลำเลียงตัวอสุจิจากอัณฑะออกมาตามท่ออสุจิ เพื่อทำให้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ น้ำอสุจิที่หลั่งออกมา ไม่มีตัวอสุจิเหลืออยู่ จึงไม่ทำให้เกิดการปฏิสนธิหรือการตั้งครรภ์ได้
ขั้นตอนการทำหมันชาย
- ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
- ไม่ต้องนอนรพ. ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย
- ไม่ดมยาสลบหรือบล็อคหลัง แค่ฉีดยาชาเฉพาะที่
- เป็นวิธีหมันเจาะ มีแผลเล็ก ๆ สองรู ที่หนังอัณฑะ
- แผลจะปิดเองในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ภาวะเเทรกซ้อนที่อาจเกิดได้ 1-2% จากการทำหมันชาย
- อาจเกิดแผลติดเชื้อในบริเวณที่ผ่าตัด
- เลือดคั่งในอัณฑะ
ข้อควรรู้ก่อนทำหมันชาย
- ไม่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะฮอร์โมนเพศชายยังผลิตเหมือนเดิม ทำให้ฮอร์โมนยังออกจากอัณฑะได้ตามปกติ
- ไม่สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งอัณฑะ มะเร็งต่อมลูกหมากแต่อย่างใด
- น้ำอสุจิเหมือนเดิม แต่ไม่มีตัวอสุจิอยู่ในนั้น
- มีอัตราการล้มเหลวหรือเกิดการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งเกิดจากท่ออสุจิที่ตัดไปมีการงอกมาเชื่อมกันเอง ด้วยกลไกการสมานแผลของร่างกาย แต่โอกาสเกิดน้อยมาก ประมาณ 0.2 % หรือ 2 ใน 1000 คน ในขณะที่การทำหมันหญิงมีถึง 0.5 %
- จะไม่เป็นหมันทันทีหลังผ่าตัด เพราะจะมีอสุจิเก่าค้างในท่ออสุจิ หลังทำควรคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยไปก่อนและพยายามหลั่งอสุจิบ่อย ๆ เพื่อขับอสุจิที่ค้างออก จากนั้นแพทย์จะนัดตรวจน้ำอสุจิในช่วง 1-3 เดือนหลังทำ เพื่อยืนยันว่าไม่มีตัวอสุจิเหลืออยู่ถึงจะถือว่าป็นหมันเเล้ว
การทำหมันชายเหมาะกับใคร?
การทำหมันชาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีบุตรแล้วอย่างน้อย 2 คน ถ้ายังไม่เคยมีบุตร หรือไม่แน่ใจในอนาคต ไม่แนะนำให้ทำ เพราะการผ่าตัดแก้หมันในภายหลัง สามารถทำได้ก็จริงแต่โอกาสสำเร็จก็ไม่ใช่ 100 %