คัดลอก URL แล้ว

Toyota เผยโฉม Crown Sedan สเปคญี่ปุ่น อีกรุ่นที่มาพร้อมเครื่องไฮโดรเจน

Toyota Motor เผยโฉม Toyota Crown Sedan ยนตรกรรมพรีเมี่ยมซีดานเจนเนอเรชั่นที่ 16 ในงาน Super Taikyu Fuji 24 Hours ที่ Fuji Speedway เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดตัวรุ่นตัวถังซีดานครั้งแรกในญี่ปุ่นแล้ว ยังมาพร้อมขุมพลังไฮโดรเจนฟิวเซล ซึ่งในเวลานี้ได้เปิดตัวให้แฟน ๆ ได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดก่อนเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

แม้ว่า All-New Toyota Crown จะเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา แต่จะมีการทยอยเปิดตัวตัวถังรูปแบบต่าง ๆ ทั้งสี่โมเดลไล่เลี่ยกัน ซึ่งตัวถังซีดานได้เผยโฉมที่แรกในประเทศจีนในงาน Shanghai Auto Show เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดในการเผยโฉมในงาน Super Taikyu Fuji 24 Hours ที่นอกจากจะเปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นแล้ว จะเป็นการเผยโฉมรุ่นรองรับขุมพลังไฮโดรเจนฟิวเซล (FCEV) ควบคู่กับรุ่นขุมพลังไฮบริด (HEV) อันเป็นผลมาจากแพลตฟอร์ม GA-L เช่นเดียวกับ Mirai และ Lexus LS นั่นเอง

สำหรับภายนอก จะมาพร้อมกับไฟหน้า LED ทรงฉลามหัวค้อน กับตะแกรงใต้กระจังหน้า ทรวดทรงที่แข็งแกร่ง สง่างาม ไฟท้าย LED ทรงเรียวยาว, ล้อลายใบพัดดีไซน์โดดเด่น และให้ความรู้สึกที่หรูหรา ส่วนสีตัวถังจะเผยเพียงแค่สีโมโนโทนที่มีให้เลือกถึง 6 สี

Toyota Crown Sedan มาพร้อมขนาดตัวถังความยาว 5,030 มม. ความกว้าง 1,890 มม. ความสูง 1,470 มม. ฐานล้อ 3000 มม. มีขนาดล้อให้เลือกทั้ง 19 นิ้วและ 20 นิ้ว ความน่าสนใจอยู่ที่ระยะฐานล้อ เมื่อเทียบกับรถรุ่นพี่อย่าง Toyota Mirai มีขนาดฐานล้อ 2,920 มม. ส่วน Lexus LS มีระยะฐานล้อ 3,125 มม. ก็ช่วยให้จินตนาการความกว้างของภายในโดยสารที่แตกต่างกันได้เป็นอย่างดี

สำหรับรายละเอียดภายใน อ้างอิงจากเว็บไซต์ฯ ได้เผยให้เห็นถึงการออกแบบแผงคอนโซล จออินโฟเทนเมนต์ และจอเรือนไมล์ ขณะที่พื้นที่โดยสารด้านหลังนอกจากจะมีช่องแอร์ด้านหลังแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนจาก 3 ที่นั่งเป็น 2 ที่นั่งด้วยเบาะกลาง ซึ่งมาพร้อมกับแผ่นสีดำที่คาดว่าเป็นจอทัชสกรีนสำหรับควบคุมคำสั่ง และเชื่อมต่อระบบความบันเทิง ส่วนสีภายในจะมีให้เลือกถึง 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีน้ำตาลเข้ม

สำหรับรายละเอียดทางเทคนิคอื่น ๆ ของ Toyota Crown Sedan สเปคญี่ปุ่นจะเปิดเผยให้ทราบเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้ ก่อนเริ่มวางจำหน่ายจริงในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้

เครดิตข้อมูลจาก toyota.jp


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง