ในช่วงระหว่างเดินทางในบางโอกาส ทางเจ้าหน้าที่ดูแลจราจรจะมีการเปิดช่องทางพิเศษ หรือเปิดเลนพิเศษเพื่อช่วยลดความแอดอัดของสภาพจราจร รวมถึงการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ และสภาพเส้นทางที่กำลังก่อสร้าง หรือชำรุด ซึ่งการที่จะเปิดเลนพิเศษจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานจราจรทางบก หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และต้องได้รับการดำเนินงานโดยตำรวจจราจร เจ้าพนักงานจราจร หรือตำรวจทางหลวงในการดำเนินการเปิดเลนพิเศษเท่านั้น
แต่ถ้าหากเปิดเลนพิเศษโดยพลการจากกลุ่มคนที่ไม่เกี่ยวข้องอันเหตุมาจากการหนีสภาพจราจรที่คับคั่ง จะส่งผลเสียที่ไม่คาดคิด รุนแรง และผิดกฏหมาย ซึ่งมีหลาย ๆ เคสที่ได้รับผลกระทบทางจราจรที่เกิดจากการเปิดเลนพิเศษทั้งช่วงเวลาเทศกาล หรือนอกเทศกาลก็ตาม
ผลกระทบจากการเปิดเลนพิเศษโดยพลการ
บนเส้นทางจราจรปกติ ขนาด และตำแหน่งของเลนได้รับการออกแบบให้มีขนาดที่เหมาะสมในการสัญจรของรถยนต์ กับรถจักรยานยนต์ รวมถึงมีไหล่ทางสำหรับนำรถจอดฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่สำหรับผู้สัญจรบางคนจึงเห็นเป็นโอกาสทองในการเปิดเลนพิเศษโดยพลการ ซึ่งมีตั้งแต่ขับรถไหล่ทาง ไปจนถึงการขับรถสวนเลนเนื่องจากเลนอีกฝั่งมีจำนวนรถน้อยกว่า
เมื่อคนนำ ก็ต้องมีคนทำตามจนเป็นผลกระทบลูกโซ่ เมื่อปริมาณรถยนต์บนถนนเกิดการสะสมอันมากขึ้นจนเกิดความแออัด ทำให้การออกไปยังเส้นทางปกติไม่สามารถทำได้อย่างราบรื่นเนื่องจากติดคอขวด อีกทั้งหากเปิดเลนสวนก็ทำให้รถที่วิ่งด้านหน้าไม่สามารถวิ่งสวนได้ เกิดรถติดหนักเป็นลูกโซ่ ซึ่งอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งจนเป็นการทะเลาะวิวาท ไปจนถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากการชนประสานงาได้
ความผิดตามกฎหมาย
การเปิดเลนพิเศษโดยพลการ มีความผิดกฎหมายจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งมีความผิดหลายกระทงด้วยกัน อาทิ
มาตรา 33 ในการขับรถ ผู้ขับขี่ต้องขับรถในทางเดินรถด้านซ้ายและต้องไม่ล้ำกึ่งกลางของทางเดินรถ ยกเว้นในกรณีที่ด้านซ้ายของทางเดินรถมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร หรือทางเดินรถนั้นกว้างไม่ถึงหกเมตร
มาตรา 41 ทางเดินรถใดที่มีเครื่องหมายจราจรให้เป็นทางเดินรถทางเดียว ให้ผู้ขับขี่ขับรถไปตามทิศทางที่ได้กำหนดไว้
โดยบทลงโทษดังกล่าวจะมีค่าปรับตั้งแต่ 200 บาท และปรับไม่เกิน 500 บาท รวมถึงบังคับใช้ควบคู่กับมาตรา 43 (8) ใน พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ข้อหาฐานขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท อีกด้วย
การเปิดเลนพิเศษโดยพลการ นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การเดินทางที่ช้าลงอย่างมีนัยยะสำคัญ วิธีการลดความเสี่ยงต่อการเจอรถติด ให้ศึกษาเส้นทางพร้อมตรวจสอบช่องทางลัด ช่องทางเลี่ยง และขับรถอย่างมีสติรอบคอบอยู่เสมอ และควรหลีกเลี่ยงการวิ่งไหล่ทางโดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อหยุดการเกิดรถติดจากการเข้าไปยังเลนพิเศษโดยพลการ และเสี่ยงต่อความผิดตามกฎหมาย เดินทางได้สบายใจ
เครดิตข้อมูลจาก พระราชบัญญัติจราจรทางบก