Audi เตรียมปิดม่าน TT Series รถสปอร์ตรุ่นเล็กที่ครองใจคนทั้งโลกหลังทำตลาดมายาวนานกว่า 25 ปี นับตั้งแต่ปี 1998 และผ่านมาแล้วถึง 3 เจนเนอเรชั่น ด้วยการเผยโฉม Audi TT Final Edition ว่าที่รถรุ่นพิเศษรุ่นสุดท้ายที่มอบความสปอร์ตเข้มข้นทั้งภายนอก และฟีเจอร์ภายใน มอบสัมผัสที่โดดเด่นเหนือใคร โดยรุ่นพิเศษนี้จะจำหน่ายเฉพาะในสหราชอาณาจักรก่อน
Audi TT Final Edition สเปคสหราชอาณาจักร จะวางจำหน่ายด้วยกันหลายรุ่น ได้แก่ 40 TFSI Coupe, 45 TFSI Quattro Coupe, TTS Coupe, 40 TFSI Roadster, 45 TFSI Quattro Roadster และ TTS Roadster
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/02/Audi-TT-Final-Edition-02.jpg)
โดยความพิเศษของรถรุ่นนี้จะได้รับตราวงแหวนสี่ห่วงสีดำเงา, ฝาครอบกระจกมองข้างสีดำ, ปลอกท่อไอเสียสีดำ และสปอยเลอร์หลังที่ยึดตายตัว สำหรับรุ่นโรดสเตอร์จะได้รับโรลบาร์ป้องกันศีรษะสีดำ และแผงดิฟฟิวเซอร์สีดำ สำหรับล้ออัลลอยในรุ่น TT จะได้ล้อ Y-spoke 5 ก้านสีดำ ส่วนรุ่น TTS จะได้รับ มีล้อสีดำแอนทราไซต์เคลือบเงา 7 ก้าน จาก Audi Sport
สำหรับภายในมาพร้อมกับการตกแต่งที่มอบสัมผัสแบบพิเศษสุด ด้วยวัสดุหนังตรงบริเวณที่วางแขนข้างประตู มือจับ และการตกแต่งคอนโซลกลาง, พวงมาลัยหุ้มหนัง Alcantara เดินตะเข็บด้ายสีแดงพร้อมแถบ 12 นาฬิกา, ตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีแดงเงา Tango พร้อมเบาะหุ้มหนัง Alcantara เดินตะเข็บด้ายสีแดง และพรมปูพื้นสีดำแต่งขอบสีแดง
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/02/Audi-TT-Final-Edition-03.jpg)
Audi TT Final Edition ทุกรุ่นจะได้รับเทคโนโลยีเพิ่มอีกหลายรายการเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิ MMI Navigation Plus พร้อม MMI Touch และบริการ Audi Connect Infotainment นอกจากนี้ ในรุ่น TTS จะได้รับแพ็คเกจ Comfort & Sound Pack ซึ่งจะประกอบด้วยชุดเครื่องเสียงจาก Bang & Olufsen, กล้องถอยหลัง และชุดเซ็นเซอร์จอดรถ
จะมีราคาจำหน่ายตั้งแต่ 41,910 ถึง 56,435 ปอนด์ หรือราว ๆ 1.73 ถึง 2.33 ล้านบาท พร้อม 3 สีตัวถังแบบเมทัลลิกให้เลือก ได้แก่ สีแดง Tango Red, สีขาว Glacier White และสีเทา Chronos Grey ซึ่งคงต้องจับตาดูว่าหลังจากที่เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามีความสมบูรณ์แบบมากพอที่จะขยายไปสู่รถสปอร์ตขนาดเล็กกันหรือไม่
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com