คัดลอก URL แล้ว

BMW M2 โฉมใหม่ พัฒนาเพื่อเอาใจสายซิ่งโดยเฉพาะ พร้อมเครื่อง 6 สูบใหม่ 453 แรงม้า

BMW ประกาศเปิดตัว All-New M2 คอมแพ็คคูเป้สมรรถนะสูงเจนเนอเรชั่นที่สอง กับการยกระดับทั้งดีไซน์ใหม่ สมรรถนะใหม่จากเครื่อง 6 สูบ TwinPower Turbo จับคู่เกียร์กระปุก 6 สปีดเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และยกระดับเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่หลายรายการ พร้อมมอบประสบการณ์ของการซิ่งรถที่เร้าใจยิ่งขึ้น

เริ่มจากภายนอกที่ได้รับการยกระดับความสปอร์ตดุดันด้วยเส้นสายใหม่ พร้อมซุ้มล้อและบั้นท้ายที่โดดเด่น เหนือสิ่งอื่นใด ด้านหน้าได้รับการออกแบบใหม่ที่ให้รูปลักษณ์ที่ชวนสะกดตายิ่งขึ้น อาทิ กระจังหน้าไร้ขอบที่ออกแบบใหม่ เพื่อให้มีรูปทรงที่นุ่มนวลขึ้น ลงตัวไปกับช่องดักอากาศที่กันชนหน้าทั้ง 3 ช่อง พร้อมตะแกรงที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อการกำหนดทิศทางการไหลของอากาศไปยังระบบไอดี ระบบระบายความร้อน ระบบเบรก และการสร้างแรงกดที่ดียิ่งขึ้น

สำหรับส่วนท้ายจะมาพร้อมกับการออกแบบกันชนท้ายด้วยเส้นเหลี่ยมมุมอันโดดเด่น ลงตัวกับแผงดิฟฟิวเซอร์ท้ายและท่อไอเสียคู่แยกข้าง และสปอยเลอร์ท้ายเนื้อเดียวกับฝากระโปรงท้าย เมื่อทั้งหมดรวมกันก็จะช่วยสร้างแรงกดอากาศส่วนท้ายได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ที่เป็นออพชั่นเสริม ส่วนล้อจะแบ่งเป็นล้อหน้า 19 นิ้ว หุ้มยาง 275/35 ZR19 กับล้อหลังขนาด 20 นิ้ว หุ้มยางขนาด 285/30 ZR20 โดยตัวล้อลูกค้าสามารถเลือกสีดำ jet black หรือสีทูโทนได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

BMW M2 โฉมใหม่ มีความยาวของตัวรถที่ 4,580 มม. กว้าง 1,887 มม. สูง 1,402 มม. ขณะที่น้ำหนักรถจะแบ่งเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด 1,730 กก. ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติจะหนักถึง 1,754 กก.

ด้านภายในนั้นได้รับการตกแต่งด้วยธีมคาร์บอน ซึ่งขะมาพร้อมชิ้นส่วนตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์รอบห้อง พร้อมคุมโทนด้วยวัสดุสีดำ และมาพร้อมจอดิจิทัลจอโค้ง ประกอบด้วยจอเรือนไมล์ 12.3 นิ้ว กับจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้ว และซอฟต์แวร์ iDrive 8 ล่าสุดของ BMW ซึ่งจะได้รับระบบนำทางของ BMW Maps เป็นระบบมาตรฐาน

สำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้แก่ จอ Head-Up Display เป็นอุปกรณ์เสริม, แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย, Personal eSIM 5G และระบบทำความร้อนในพวงมาลัย

ขณะเดียวกัน ลูกค้าสามารถเลือกเบาะได้ 2 แบบ ทั้งเบาะหนัง M Sport ปรับระดับด้วยไฟฟ้า และเบาะบัคเก็ตซีทหลังคาร์บอน M Carbon ที่มีน้ำหนักเบากว่าเบาะหนัง 10 กิโลกรัม แต่ยังเพียบพร้อมไปด้วยระบบควบคุมด้วยไฟฟ้า และระบบอุ่นเบาะในตัว

สำหรับขุมพลังนั้นจะใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง ความจุ 3.0 ลิตร TwinPower turbo รหัส S58 รุ่นใหม่ล่าสุด แทนที่รหัส N55 และ S55 เดิมภายใต้พิกัดความจุเดียวกัน ซึ่งเครื่องยนต์ดังกล่าวได้รับการอัปเกรดระบบอัดอากาศ, ระบบระบายความร้อน และระบบไหลเวียนน้ำมันเครื่องใหม่

แม้ยังเป็นขุมพลัง ICE เพียว ๆ ที่ไม่ได้พ่วงระบบไฮบริดใด ๆ แต่สามารถมอบสมรรถนะได้สูงสุดถึง 453 แรงม้า (HP) ที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิด 550 นิวตันเมตร ระหว่าง 2,650-5,870 รอบ/นาที และเรดไลน์สูงสุด7,200 รอบ/นาที หรือให้สมรรถนะมากกว่ารุ่นเดิมที่ทำได้เพียง 410 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร

ในขณะที่รถรุ่นอื่น ๆ ได้เลี่ยงจำหน่ายเกียร์ธรรมดา และเน้นทำตลาดเฉพาะเกียร์ออโต้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ BMW M2 ยังคงมาพร้อมเกียร์ธรรมดา 6 สปีด พร้อมระบบ Rev-Matching เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และยังมีตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ Slushbox 8 สปีด พร้อมโหมดขับขี่ 3 โหมดเฉพาะให้เลือกด้วย ส่วนระบบขับเคลื่อนจะมีเฉพาะขับหลังเท่านั้น สอดคล้องกับแพลตฟอร์มที่เน้นคนขับโดยเฉพาะ

สำหรับอัตราเร่งจาก 0 – 96 กม./ชม. นั้น ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ทำได้ใน 4.1 วินาที ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด จะเร็วกว่าเล็กน้อยที่ 3.9 วินาที ทุกรุ่นจำกัดความเร็วสูงสุดที่ 248 กม./ชม. แต่ถ้าลูกค้าเพิ่มแพ็คเกจ M Driver ก็สามารถปรับจูนเพิ่มความเร็วสูงสุด 283 กม./ชม.

ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพของคนขับโดยเฉพาะ จึงมาพร้อมพวงมาลัย Servotronic มาตรฐาน ที่จะมีปุ่มสลับโหมด Comfort และ Sport ได้, ระบบกันสะเทือนแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน, ระบบ DSC (Dynamic Stability Control) ที่สามารถตั้งค่าเป็น M Dynamic Mode ซึ่งจะทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ยนต์ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ตอบสนองได้รวมดเร็วยิ่งขึ้น และผู้ขับขี่ก็สามารถตั้งค่าระบบเบรกให้เหมาะสมกับการขับขี่บนถนน หรือในสนามแข่งได้ และ มี Active M Differential ที่สามารถส่งล็อคได้มากถึง 100 เปอร์เซ็นต์

เทคโนโลยี M Drive Professional ที่ได้รับการบรรจุใน M2 โฉมใหม่ มาพร้อมระบบช่วยเหลือขับขี่ และช่วยในการดริฟท์ รวมถึงสามารถปรับตั้งค่า M Traction Control มากถึง 10 ระดับ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการทรงตัวระหว่างการขับขี่ในโหมด Sport แต่ถ้าเลือกเป็น Track ก็จะปิดระบบส่วนนี้ไปโดยสมบูรณ์ ควบคู่กับระบบจับเวลา Lap Time และระบบรายงานผลการขับขี่กับบันทึกสถิติควบคู่ด้วย

All-New BMW M2 จะผลิตขึ้นในโรงงานที่เมืองในซานหลุยส์โปโตซี ประเทศเม็กซิโกสำหรับจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐอเมริกา พร้อมราคาจำหน่ายที่ 62,200 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 2.36 ล้านบาท และมีแผนเปิดตัวทั่วโลกในเดือนเมษายน 2023 เป็นต้นไป

เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง