Honda Motor ประเทศญี่ปุ่น ประกาศแผนงานสำหรับธุรกิจรถจักรยานยนต์ เพื่อยกระดับเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนที่ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ในเครือ ด้วยการพัฒนาและเตรียมเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ไม่น้อยกว่า 10 รุ่น ภายในปี 2025 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า
ซึ่งภายใต้การพัฒนารถและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จะถูกกำหนดภายใต้นโยบายธุรกิจรถจักรยานยนต์ของฮอนด้า 3 หัวข้อสำคัญได้แก่
การมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
ทางฮอนด้า ตั้งเป้าที่จะบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับฮอนด้า และกิจกรรมขององค์กรทั้งหมดภายในปี 2050 ขณะที่ผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ทั้งหมดได้ตั้งเป้าบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนภายในปี 2040
พร้อม ๆ กับการพัฒนาระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้ง 3 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ แบตเตอรี่ / PCU / มอเตอร์ ที่ให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมทั้งสมรรถนะและระยะทาง การดูแลรักษาที่ง่าย มีราคาไม่แพง โดยได้ต่อยอดองค์ความรู้จากการพัฒนาเทคโนโลยี eSP+ ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานจริง และในอนาคตจะมีการใช้แบตเตอรี่เจนเนอเรชั่นใหม่ควบคู่ด้วย
ขณะเดียวกัน กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังคงพัฒนาเพื่อตอบสนองแก่ลูกค้าควบคู่กันไป โดยจะยกระดับการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผ่านมาตรฐานไอเสียที่สูงขึ้น โดยไม่ลดทอนสมรรถนะและการดูแลรักษา
และทางบริษัทฯ ได้พัฒนารถจักกรยานยนต์ที่สามารถใช้พลังงานยืดหยุ่น (flex-fuel) ที่รองรับได้ทั้งน้ำมันและเอทานอล ซึ่งประเดิมวางจำหน่ายแล้วในประเทศบราซิล
การสร้างสรรค์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
ฮอนด้าเตรียมนำเสนอรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 10 รุ่นภายในปี 2025 พร้อมกับตั้งเป้าหมายจำหน่ายรายปี 1 ล้านคันภายใน 5 ปีข้างหน้า และ 3.5 ล้านคัน ภายในปี 2030
โดยในระหว่างปี 2022 – 2024 ทางฮอนด้าจะมีแผนเปิดตัวและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Commuter EM/EB ขนาดกะทัดรัด และราคาไม่แพงเพิ่มอีก 5 รุ่น ครอบคลุมการจัดจำหน่ายทั้งในจีน เอเชีย ยุโรป และญี่ปุ่น
ขณะที่ในปี 2024 – 2025 ก็จะเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Commuter ในระดับกลางจำนวน 2 รุ่น สำหรับตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และเอเชีย
และมีแผนเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับไลฟ์สไตล์เฉพาะกลุ่มอีก 3 รุ่น ที่พัฒนาภายใต้แพลตฟอร์ม FUN EV สำหรับตลาดญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรประหว่างปี 2024 ถึง 2025 นอกจากนี้จะมีการแนะนำโมเดลสำหรับเด็กเพื่อส่งต่อความสุขกับคนรุ่นต่อไป โดยคาดว่าจะมาในรูปแบบรถเอนดูโร่ขนาดเล็ก แต่ยังไม่เปิดเผย
การทำให้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
ฮอนด้าจะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้มีความแพร่หลาย รวมถึงการส่งเสริมการใช้แบตเตอรี่ร่วมกันของแบรนด์ต่าง ๆ
และทางฮอนด้า ยังได้ผนึกกำลังแบรนด์รถจักรยานยนต์อื่น ๆ และผู้ผลิตแบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยนได้ เพื่อกำหนดมาตรฐานและรูปทรงแบตเตอรี่แบบสลับเปลี่ยนให้ลูกค้าสามารถใช้งานเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้สะดวกสบาย และลดพื้นที่ติดตั้งจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่อีกด้วย
นอกจากนี้ ฮอนด้ายังพร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุก สะดวกสบาย ผ่านการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทันสมัยตามเทรนด์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับโมเดลรถจักรยารยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ฮอนด้าในไทยที่เข้ามาในเวลานี้จะมีทั้ง PCX EV และ Benly e ซึ่งยังคงเป็นโมเดลนำเข้า และประเดิมนำร่องทดสอบการใช้งานและการบริการผ่านหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในรูปแบบองค์กรต่อองค์กร (B2B)
แต่ในเวลานี้มีแผนที่จะเริ่มจัดตั้งโรงงานประกอบ Honda Benly e ในประเทศไทยภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ พร้อม ๆ กับกำลังศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เพื่อเตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงกับภาครัฐ หรือ MOU ในการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหากเป็นรถที่มีราคาไม่เกิน 150,000 บาท ก็อาจจะได้รับส่วนลดถึง 18,000 บาท
