หลังจากที่ได้เปิดตัวซูเปอร์ทัวร์เรอร์หัวใจ V8 จาก Mercedes-AMG อย่าง All-new Aston Martin DB12 อย่างเป็นทางการ ล่าสุด ได้เพิ่มตัวเลือกซูเปอร์ทัวร์เรอร์ที่ชื่นชอบสายลมแห่งการเดินทาง และความสปอร์ตที่เหนือระดับด้วยรุ่นเปิดประทุนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ โดยที่จัดเต็มทั้งความหรู สมรรถนะ และเทคโนโลยีจาก DB12 ด้วยรุ่น Aston Martin DB12 Volante
แม้ว่ารถรุ่นใหม่นี้จะไม่ได้ใช้เครื่องยนต์ V12 ที่เคยใช้งานใน DB11 Volante และใช้เครื่องยนต์ V8 ใหม่ล่าสุดแทน แต่รถ DB12 Volante รุ่นนี้ยังคงมอบสัดส่วนที่ดึงดูดใจไม่แพ้ตัวถังคูเป้ด้วยการผสานร่วมกับการออกแบบภายนอกที่โฉบเฉี่ยว มีชีวิตชีวา พร้อมเผยภายในที่เปี่ยมไปด้วยวัสดุที่งดงาม และการรังสรรค์ที่ประณีต
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- Aston Martin DB12 ซูเปอร์ทัวร์เรอร์ที่ล้ำ เครื่อง V8 ที่ทรงพลังที่สุดในโลก
- Aston Martin DBX707 อัญมณีเม็ดงามแห่งเอสยูวีสมรรถนะสูงมาถึงไทยแล้ว
- Aston Martin DBR22 Concept โมเดลที่หลอมรวมนวัตกรรม-การออกแบบ-ผลิตสุดไฮเทคของแผนก Q
สำหรับหลังคารถจะยังคงเป็นหลังคาผ้าใบที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้เวลาเปิด 14 วินาที และปิด 16 วินาที โดยรองรับการใช้งานหลังคาผ้าใบที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. ด้วยการพับหลังคาแบบสองขั้น จนทำให้ความสูงท้ายรถเพิ่มอีก 260 มม. เพื่อให้มีพื้นที่เก็บหลังคาผ้าใบโดยที่ไม่กระทบต่อความจุห้องสัมภาระท้าย อีกทั้งหลังคาผ้าใบยังเสริมด้วยฉนวนมากถึง 8 ชั้น สำหรับกันเสียง กันน้ำ กัน UV และกันความร้อน
สีหลังคาผ้าใบมาตรฐานคือสีดำ แต่ลูกค้าสามารถเลือกเป็นหลังคาผ้าใบสีแดง น้ำเงิน และ “ดำ & ซิลเวอร์” ซึ่งสร้างการผสมผสานที่แตกต่างกันนับไม่ถ้วนกับเฉดสีภายนอก และเฉดสีภายใน และความน่าสนใจที่สร้างความแตกต่างจากรุ่นคูเป้ คือพนักพิงหลังของ Volante มีแผ่นไม้อัดไม้ และแผงคาร์บอนไฟเบอร์ที่เข้าชุดกับขอบประตู
นอกจากการตกแต่งภายในและฟีเจอร์ต่าง ๆ จะส่งตรงจาก DB12 รุ่นคูเป้แล้ว สิ่งที่เป็นไฮไลท์เด็ดอีกรายการก็คือ ระบบอินโฟเทนเมนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ Aston Martin ที่นำเสนอคุณสมบัติการเชื่อมต่อล่าสุดทั้งหมด ซึ่งได้รวมอยู่ในหน้าจอสัมผัส Pure Black ขนาด 10.25 นิ้ว และเชื่อมต่อกับระบบเสียงของ Bowers & Wilkins ที่มีลำโพง 11 ตัว (390 วัตต์) เป็นมาตรฐาน หรือเลือกเป็นลำโพง 15 ตัว (1,170 วัตต์) รอบห้องโดยสารได้เช่นกัน
Aston Martin DB12 Volante ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ จาก Mercedes-AMG ให้กำลังสูงสุด 680 แรงม้า (PS) แรงบิด 800 นิวตันเมตร พร้อมจับคู่เกียร์ออโต้ ZF 8 สปีด ขับเคลื่อนล้อหลังที่ทำงานร่วมกับเฟืองท้ายไฟฟ้า (E-Diff)
แต่ด้วยการอัปเกรดโครงสร้าง และเสริมชุดหลังคาผ้าใบ ส่งผลให้ตัวรถหนักขึ้นกว่ารุ่นคูเป้ และให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ช้ากว่ารุ่นคูเป้ 0.1 วินาที ด้วยระยะเวลา 3.7 วินาที
สำหรับแชสซี และช่วงล่างนั้น เริ่มจากโครงสร้างอะลูมิเนียมที่ได้รับการการอัปเกดให้สามารถทนทานต่อการบิดถึงเพิ่มขึ้น 5% แม้จะน้อยกว่ารุ่นคูเป้ที่ทำได้ถึง 7%, โช้คอัพที่อัปเกรดสำหรับรถเปิดประทุนโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับอัตราสปริงด้านหลังที่ปรับใหม่ด้วยเช่นกัน
และล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้วมาตรฐาน พร้อมหุ้มยาง Michelin Pilot S 5 ขนาด 21 ที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะ ส่วนดิสก์เบรกจะเป็นดิสก์โลหะขนาด 400 มม. ที่ล้อหน้า และ 360 มม. ที่ล้อหลัง แต่ลูกค้าสามาถเลือกเป็นดิสก์เบรกเซรามิกได้เช่นกัน
Aston Martin DB12 Volante จะเปิดตัวต่อสาธารณชนที่ The Quail ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Monterey Car Week 2023 ในแคลิฟอร์เนีย มีแผนส่งมอบลอตแรกในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ และเป็นอีกรุ่นที่ลูกค้าที่ต้องการความพิเศษสามารถใช้บริการแผนก Q by Aston Martin เพื่อคัสตอมให้เป็นรถในสไตล์ของคุณโดยเฉพาะโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย
ขณะเดียวกัน แฟน ๆ ชาวไทย เตรียมพบกับการมาของ Aston Martin DB12 ‘The World’s First Super Tourer’ อย่างเป็นทางการในเดือนนี้
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com
