Aston Martin ได้เปิดตัว New Aston Martin DB12 ที่ได้รับการอัปเกรดจาก DB11 โฉมปัจจุบันที่มอบความโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย และขุมพลัง V8 ที่มอบกำลังสูงถึง 680 แรงม้า ถีบตัวออกจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. เพียง 3.6 วินาทีจนถูกขนานนามว่าเป็น “world’s first super tourer” หรือซูเปอร์ทัวร์เรอร์ที่ล้ำ และทรงพลังที่สุดในโลก และยังเป็นการฉลองครบรอบ 110 ปีของแบรนด์รถยนต์หรูสัญชาติอังกฤษ
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/63D5B493-4670-4FB4-978B-396466A2D07C.jpeg)
ซึ่ง Aston Martin DB12 ได้ปรับบุคลิกของ DB11 ให้โฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือไปอีกขั้น อาทิ กระจังหน้าที่ดูใหญ่ขึ้น แต่คงความปราดเปรียว, กันชนหน้าใหม่ที่ออกแบบให้รับกับสปลิตเตอร์อันโดดเด่น, ไฟหน้า LED ใหม่, ฝากระโปรงหน้า และตรา Aston Martin ดีไซน์ใหม่, กระจกมองข้างที่โฉบเฉี่ยวขึ้น, ล้อ 21 นิ้วลายใหม่ ที่มาพร้อมน้ำหนักเบากว่าล้อ 20 นิ้ว ของ DB11 เดิมถึง 8 กก. อีกทั้งยังหุ้มด้วยยาง Michelin Pilot 5s ที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งมีโฟมโพลียูรีเทนป้องกันเสียงรบกวน ช่วยลดเสียงยางเข้าสู่ห้องโดยสารลง 20%
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- Aston Martin DBX707 อัญมณีเม็ดงามแห่งเอสยูวีสมรรถนะสูงมาถึงไทยแล้ว
- Aston Martin DBS 770 Ultimate แรงล้ำ สง่างามจัดเต็มส่งท้าย DBS อย่างสมเกียรติ
- Aston Martin DBR22 Concept โมเดลที่หลอมรวมนวัตกรรม-การออกแบบ-ผลิตสุดไฮเทคของแผนก Q
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/3937A441-A239-45D4-B5CD-A3A2D5D4F1AD.jpeg)
สำหรับภายในได้ติดตั้งจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.25 นิ้ว ใหม่ล่าสุด พร้อมทั้ง Android Auto และ Apple CarPlay รวมถึงการเชื่อมต่อ 4G ระบบสั่งงานด้วยเสียง และรองรับการอัพเดทผ่านระบบ Over the Air ที่มาพร้อมกับการใช้งานที่ง่ายขึ้น
ซึ่งนอกจากจะได้จออินโฟเทนเมนต์ใหม่แล้ว ก็ส่งผลให้มีการออกแบบแผงคอนโซลใหม่ ควคู่กับจอเรือนไมล์ดิจิทัล, ช่องแอร์ทรงเรียว, ปุ่มควบคุมสไตล์มินิมอล, สวิตช์เกียร์ใหม่, แป้นควบคุมแบบหมุนดีไซน์ใหม่ และวัสดุตกแต่งภายในใหม่
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/B97E8CD2-B776-49F3-AAA6-30041C10F612.jpeg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/7570F3E5-B183-48F1-A445-8B5D75FC2243.jpeg)
อีกทั้งยังได้รับชุดเครื่องเสียงพรีเมี่ยมพร้อมลำโพง 11 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หรือจะเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ พร้อมลำโพง 15 ตำแหน่งจาก Bowers & Wilkins, ตัวเลือกเบาะแบบ Sports Plus และ Carbon Fiber Performance อีกทั้งสามารถเลือกวัสดุตกแต่งได้หลากหลาย ทั้งไม้, อะลูมิเนียม และคาร์บอนไฟเบอร์ เป็นต้น
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/E64A9D33-3F5D-4D9D-84DC-C4FE9E9BE6BD.jpeg)
สำหรับขุมพลังของ Aston Martin DB12 มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V8 ความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ จาก Mercedes แม้จะเป็นเครื่องบล็อกเดียวกับ DB11 โฉมปัจจุบัน แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้กำลังสูงสุด 680 แรงม้า (PS) แรงบิด 800 นิวตันเมตร พร้อมจับคู่เกียร์ออโต้ 8 สปีด
ซึ่งนอกจากจะทรงพลังกว่ารุ่นเดิมที่ให้กำลังเพียง 535 แรงม้า (PS) และแรงบิด 675 นิวตันเมตร แถมยังแรงกว่ารุ่น V12 ที่เปิดตัวก่อนหน้า ที่ทำได้เพียง 639 แรงม้า (PS) และแรงบิด 700 นิวตันเมตรอีกด้วย
ด้วยเครื่อง V8 ใหม่ล่าสุดนี้ สามารถให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดถึง 325 กม./ชม.
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/559DBA79-386B-492B-8107-E5FE4E92DE6D.jpeg)
นอกจากขุมพลังใหม่แล้ว DB12 ยังปรับปรุงแชสซีใหม่ซึ่งมีความแข็งแรงขึ้น 7% ด้วยการปรับเปลี่ยนคานขวางเครื่องยนต์ ถาดรองด้านหน้า และด้านหลัง คานขวางด้านหน้า และแผ่นกั้นด้านหลังใหม่ อีกทั้งได้ติดตั้งติดตั้งเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิปควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และระบบกันสะเทือนที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งมีเหล็กกันโคลงที่แข็งขึ้นและโช้คอัพแบบปรับได้รุ่นใหม่ล่าสุด
อีกทั้งได้อัปเกรดระบบควบคุมการทรงตัวด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ และหม้อลมเบรกที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ อีกทั้งได้รับดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิกที่มีน้ำหนักเบา สามารถลดน้ำหนักรวมของรถได้อีก 27 กก. และให้ความทนทาน ลดการสึกหรอเมื่อหยุดรถด้วยความเร็วสูง โดยเฉพาะบนสนามแข่ง
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/05/19DCD8EA-4EAB-4570-8B8F-54F1056D788F.jpeg)
Aston Martin DB12 จะเปิดตัวพร้อมประกาศราคาในช่วงไตรมาสที่สามปีนี้เป็นต้นไป
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com