Aston Martin เตรียมปิดไลน์ DBS (AM7) แกรนด์ทัวเรอร์โฉมปัจจุบันหลังจากทำตลาดตั้งแต่ปี 2018 ถึงปัจจุบัน ด้วยการเปิดตัว Aston Martin DBS 770 Ultimate รถรุ่นพิเศษที่ได้รับการยกระดับทางวิศวกรรม บุคลิก และสมรรถนะให้สูงที่สุดของไลน์ DBS โดยจะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 499 คัน แบ่งเป็นคูเป้ 300 คัน และโวลันเต 199 คัน ซึ่งทั้งสองรุ่นถูกจำหน่ายหมดแล้ว ส่วนกำหนดส่งมอบจะเริ่มในไตรมาสที่สามของปีนี้
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-04.jpg)
เริ่มจากภายนอกมีการปรับปรุงรูปลักษณ์ใหม่ โดยเน้นที่ประสิทธิภาพการไหลของอากาศที่ดีขึ้น เพื่อการสร้างแรงกดอากาศใหม่ และการระบายความร้อนมากกว่าเดิม อาทิ การออกแบบตะแกรงกระจังหน้าใหม่ สปลิตเตอร์หน้าดีไซน์ใหม่พร้อมช่องดักอากาศ
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-06.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-07.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-08.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-11.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-13.jpg)
ควบคู่กับชิ้นส่วนดีไซน์พิเศษมากมาย อาทิ ราวหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ที่ถัดเส้นใยรูปแบบเฉพาะ, กระจกบังลมรอบคัน, ฝาครอบกระจกมองข้าง และบังโคลนล้อแบบบานเกล็ด, สเกิร์ตข้างคาร์บอนไฟเบอร์ และชุดแผงดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังที่ออกแบบมาเป็นพิเศษช่วยรักษาสมดุลของแอโรไดนามิกจากด้านหน้าไปด้านหลัง และยังทำให้รถดูสวยงาม โดดเด่นในทุกมิติอีกด้วย
และพิเศษยิ่งกว่าคือล้อขนาด 21 นิ้ว ที่มีให้เลือกสามแบบ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากไฮเปอร์คาร์ Valkyrie และ Victor ของ Aston Martin ทุกลายหุ้มยาง Pirelli ‘P-Zero’ (หน้า: 265/35R21, หลัง: 305/30R21) เป็นยางมาตรฐานอีกด้วย
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-14.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-18-1.jpg)
สำหรับภายในโดดเด่นด้วยเบาะนั่ง Sport Plus หุ้มหนังกึ่งอะนิลีน และ Alcantara ที่ออกแบบเป็นพิเศษ แต่ลูกค้าสามารถเลือกเบาะ Performance Seats เป็นอุปกรณ์เสริมได้เช่นกัน, ที่วางแขนด้านหลังมาพร้อมสายรัดหนังพร้อมป้ายหัวเข็มขัดโลโก้ DBS 770 Ultimate ที่แกะสลักด้วยเลเซอร์, แผงเกียร์คาร์บอนไฟเบอร์, แผ่นรองธรณีประตูลายพิเศษ เป็นต้น
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-16.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-17.jpg)
ที่สำคัญ DBS 770 Ultimate เป็นรถสปอร์ตผลิตจำนวนมากที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Aston Martin ด้วยเครื่องยนต์ V-type 12 สูบ DOHC 5.2 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ได้รับการปรับปรุงทั้งระบบไอดี ระบบจุดระเบิด พร้อมเพิ่มแรงดันบูสของเทอร์โบเพิ่มอีก 7% รวมถึงมีการปรับจูนแรงบิดใหม่ที่ให้การตอบสนองที่ดีกว่าเดิม อัตราเร่งในช่วงกลางที่ยอดเยี่ยม และให้เสียงเครื่องยนต์ V12 ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ทั้งหมดให้กำลังสูงสุด 770 แรงม้า (PS) ที่ 6500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตร ที่ 1,800-5,000 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุดถึง 340 กม./ชม. (เพิ่มขึ้นจากเดิม 45 แรงม้า)
พร้อมระบบส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด และชุดเฟืองท้ายแบบ Mechanical LSD ที่ได้รับการปรับเทียบใหม่เพื่อการส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อได้ดียิ่งขึ้น
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-19.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-20.jpg)
เพื่อการควบคุมรถที่ดีเยี่ยมภายใต้สมรรถนะใหม่ จึงได้มีการติดตั้งคอพวงมาลัยใหม่ ให้ผู้ขับขี่สามารถจับสภาพของพื้นผิวถนนและยางหน้าได้อย่างแม่นยำ, เพิ่มความแข็งแรงของ Crossmember ที่ล้อหน้า 25% และแผงกันกระแทกที่ล้อหลัง 3%, ระบบ Adaptive Damping System (ADS) ได้รับการปรับปรุง ปรับเทียบระบบกันสะเทือนโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนได้ดีขึ้นโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายของภายในแต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังใช้ดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิก (CCB) ด้วยจานหน้าขนาด 410 x 38 มม. และดิสก์เบรกหลังขนาด 360 x 32 มม. เช่นเดียวกับ DBS แต่แต่ลูกค้าสามารถเลือกดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิก (CCB) ของ Aston Martin ได้อีกด้วย
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/Aston-Martin-DBS-770-Ultimate-21.jpg)
น่าเสียดายที่ Aston Martin DBS 770 Ultimate ทั้งสองรุ่นถูกจำหน่ายหมดแล้ว โดยกำหนดการผลิตจะมีขึ้นในไตรมาสแรกปีนี้ ส่วนกำหนดส่งมอบจะเริ่มในไตรมาสที่สามของปีนี้ตามลำดับ
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com