คัดลอก URL แล้ว

NETA Aya / V ปรับโฉมใหม่ทั้งรูปลักษณ์ และแบตเตอรี่ใหม่

Hozon Auto ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ NETA ได้เปิดตัว New NETA Aya หรือ NETA V รุ่นปรับโฉมใหม่ ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ ภายในโทนสีใหม่ และแบตเตอรี่ใหม่ที่สามารถวิ่งได้ไกลกว่าเดิม

สำหรับรายละเอียดการปรับโฉมนั้น เริ่มจากด้านหน้าของรถที่ปรับดีไซน์กันชนหน้าให้ดุดันยิ่งขึ้นด้วยช่องดักอากาศรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูที่ใหญ่ขึ้น และเสริมช่องสามเหลี่ยมด้านข้างซ้ายขวาเพิ่มอารมณ์สปอร์ต แต่จุดที่มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจนคือส่วนท้ายรถที่มาพร้อมกับไฟท้ายดีไซน์ใหม่ที่ให้ความเรียบหรู และเสริมแถบไฟท้ายพาดผ่านฝากระโปรงท้าย รวมถึงกันชนท้ายก็ดีไซน์ใหม่ด้วย และล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 15 นิ้ว

อ่านข่าวเพิ่มเติม:

แม้จะมีหน้าตาใหม่ แต่รายละเอียดมิติตัวถังจะยังคงไว้ที่ความยาว 4,070 มม. กว้าง 1,690 มม. สูง 1,540 มม. พร้อมระยะฐานล้อ 2,420 มม. ซึ่งเป็นขนาดเดิมของ NETA V ในปัจจุบัน

สำหรับรายละเอียดภายในยังคงโดดเด่นด้วยอุปกรณ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสองก้านแบบ ‘สปอร์ต’ หน้าจอสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว วางตั้ง จอเรือนไมล์ดิจิทัล 12 นิ้ว และบรรยากาศสไตล์มินิมอล แต่การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือโทนสีภายในใหม่ด้วยโทนสีดำ-ขาว และโทนสีดำ-ฟ้า จากเดิมที่มีเฉพาะเฉดสีดำ และสีชมพูเท่านั้น อีกทั้งยังได้ใช้ชิป MT8675 จาก MediaTek ที่ให้ประสิทธิภาพคล้ายกับโปรเซสเซอร์ 8155 จาก Qualcomm พร้อมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนที่ทำได้หลากหลายยิ่งขึ้น

New NETA Aya มีสองขุมพลังให้เลือกด้วยกัน เริ่มจากรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 40 กิโลวัตต์ (54 แรงม้า) และแบตเตอรี่ LFP จาก Guangxi Ningfu มอบระยะทางได้ไกลสุด 318 กม./ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (CLTC) และสิ่งที่น่าสนใจก็คืก่อนหน้านั้นในรุ่น V ใช้แบตเตอรี่ LFP และ NMC จาก CATL ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำของจีน ขณะที่บริษัท Guangxi Ningfu เป็นบริษัทที่ค่อนข้างใหม่ซึ่งเปิดตัวในปี 2021 ที่ผ่านมา

และรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 70 กิโลวัตต์ (95 แรงม้า) และแบตเตอรี่ LFP ที่ผลิตจาก SVOLT สำหรับระยะทาง 401 กม./ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (CLTC) แม้ทั้งสองรุ่นจะไม่เปลี่ยนแปลงด้านสมรรถนะของมอเตอร์ไฟฟ้า แต่มีการเปลี่ยนแปลงด้านบริษัทซับพลายเออร์ผู้ผลิตแบตเตอรี่ใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อราคารถโดยรวมอย่างมีนัยยะสำคัญ

New NETA Aya มีสี่เกรดย่อยด้วยกัน ได้แก่

318 Lite เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 73,800 หยวน หรือราว ๆ 3.56 แสนบาท จะได้รับล้อกะทะ 15 นิ้ว หุ้มยางขนาด 185/65 R15, ถุงลมนิรภัยด้านหน้า, เรดาร์จอดรถด้านหลัง, กล้องมองหลัง, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ไฟหน้าฮาโลเจน และลำโพง 4 ตัว

รุ่น 318 เปิดราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 78,800 หยวน หรือราว ๆ 3.83 แสนบาท จะได้รับล้ออะลูมิเนียม 15, แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สาย, ฟีเจอร์คาราโอเกะในรถยนต์, กระจกมองข้างพร้อมระบบไล่ฝ้า, เซ็นเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน และไฟหน้า LED

สำหรับรุ่น 401 Lite และ 401 ฟีเจอร์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ จะอิงจาก 318 Lite และ 318 เนื่องจากความแตกต่างจะอยู่ที่มอเตอร์ไฟฟ้า และความจุแบตเตอรี่ โดยมีราคาตั้งแต่ 84,800 ถึง 88,800 หยวน หรือราว ๆ 4.12 ถึง 4.32 แสนบาท นอกจากนี้ลูกค้าสามารถอัปเกรดเทคโนโลยีเสริมในราคา 4,000 หยวน หรือ 1.9 หมื่นบาท ซึ่งจะได้รับทั้งระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Level 2, ACC, AEB, เบาะเสริมฮีทเตอร์ เป็นต้น สำหรับ NETA V รุ่นปรับโฉมสเปคไทยนั้นจะมีทิศทางอย่างไรต้องจับตามองกันในอนาคต

เครดิตข้อมูลจาก hozonauto.com และ carnewschina.com


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง