บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด รายงานความคืบหน้าแผนการดำเนินงานหลังเปิดแบรนด์ NETA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าแผนงานปี 2566 ตั้งเป้าส่งมอบ 10,000 คัน
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/9D2CA7C3-BD0B-4832-9A57-CBCB9ED936E1.jpeg)
มร. เป่า จ้วงเฟย (Mr. Bao Zhuangfei) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า “ปี 2565 เป็นปีแห่งความท้าทายสำหรับ NETA และเป็นปีแรกที่เราขยายธุรกิจออกนอกประเทศจีน ซึ่งมีประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลักของแผนงานเชิงกลยุทธ์ดังกล่าว โดยผลการดำเนินงานของ NETA ในประเทศจีนเมื่อปีที่ผ่านมา NETA มีอัตราการเติบโตของยอดการจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสูงถึง 118% ด้วยยอดส่งมอบรถให้กับลูกค้ารวม 152,073 คัน นับเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ EV รายแรกของจีนที่มียอดขายมากกว่า 150,000 คันต่อปี”
“สำหรับในปี 2566 บริษัทฯ มั่นใจว่าตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นกว่า 100% จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ รวมไปถึงทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น การมีสถานีชาร์จที่เข้าถึงง่าย และต้นทุนการใช้งาน หรือ Cost of Ownership ที่น่าดึงดูดใจกว่ารถยนต์ทั่วไปในท้องตลาด โดยคาดการณ์ตลาดรวมไว้ประมาณ 25,000 – 30,000 คัน ซึ่ง NETA ตั้งเป้าส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ลูกค้าคนไทย 10,000 คัน”
“โดยจะเดินหน้าแผนงานในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ พร้อมเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งให้เกิดระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศไทยให้สมบูรณ์ รวมทั้งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน” มร. เป่า จ้วงเฟยกล่าว
ผลดำเนินงานปี2565
บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ลงนามกรมสรรพสามิตรับแพ็คเกจสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ร่วมกับ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จำกัด หรือ BGAC ได้ลงนามในข้อตกลงเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับกรมสรรพสามิต และพร้อมเดินหน้าโครงการประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่โรงงานประกอบรถยนต์บางชัน ในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เขตคันนายาว กรุงเทพฯ เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดในประเทศ โดยจะเริ่มสายพานการผลิตได้ภายในปี 2567
เปิดตัว “NETA V” Touchable Smart EV ด้วยราคา 549,000 บาท*
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/6B7E72B7-66EC-4878-932A-B6ED8C17610E.jpeg)
สำหรับปี 2565 ที่ผ่านมา NETA ได้เปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการพร้อมแนะนำ NETA V รถยนต์ City Car พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นรุ่นแรกสู่ตลาดเมืองไทย โดยมีราคาจัดจาหน่ายอยู่ที่ 549,000 บาท* ซึ่งบริษัทฯ ต้องขอขอบคุณคนไทยที่ให้การต้อนรับแบรนด์ NETA เป็นอย่างดี รวมไปถึงการให้การยอมรับ NETA V ในฐานะ Touchable Smart EV ทำให้มียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงสำหรับความล่าช้าในการส่งมอบ NETA V ให้กับลูกค้าของ NETA ทุกท่าน โดยปีที่ผ่านมาสามารถส่งมอบ NETA V ให้กับลูกค้าในประเทศไทย 989 ท่าน
บริษัทฯ ตระหนักดีถึงความต้องการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของลูกค้า และมิได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะดำเนินการอย่างสุดความสามารถในการเร่งส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ให้กับลูกค้าทุกท่านโดยเร็วที่สุด
ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบใหม่
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/8BCCD7DB-674D-4A0A-B5BB-C6726BD1A0C6-1024x644.jpeg)
ปัจจุบัน NETA มีผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว 24 แห่ง ครอบคลุมในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ รวมไปถึงการเปิดให้บริการ NETA SPACE (เนต้าสเปช) ภายในพื้นที่ศูนย์การค้าเพื่อรองรับกับไลฟส์ไตล์ของลูกค้า โดยวางเป้าหมายขยายเพิ่มเป็น 30 แห่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น
รวมถึงทางบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย โดยมีการเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ทั้งการฝึกอบรมความพร้อมเจ้าหน้าที่สำหรับดูแลลูกค้าอย่างมืออาชีพ การจัดเตรียมอะไหล่สำรองให้สามารถรองรับกับความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที รวมไปถึงการให้คำแนะนาด้านการผลิต และความรู้พื้นฐานด้านการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมบริการช่วยเหลือลูกค้ากรณีฉุกเฉินผ่าน NETA Call Center ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้ตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน
สำหรับภูมิภาคอาเซียน นอกจากจะมีความสาคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลกแล้ว ยังสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานในระดับสากลของ NETA โดยบริษัทฯ ได้เริ่มแผนขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
ด้วยภายใต้แผนกลยุทธ์ดังกล่าวประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก และรายใหญ่ที่สุดของอาเซียน อีกทั้งยังมีนโยบายสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมถูกวางตำแหน่งให้เป็นศูนย์กลางของการดำเนินธุรกิจของ NETA ในภูมิภาค และพร้อมเดินหน้าขยายสู่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
โดยภายหลังจากการเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย NETA ได้ขยายการดำเนินงานไปยัง ลาว พม่า ภูฏาน เนปาล รวมไปถึงอิสราเอล ก่อนจะขยายไปยังประเทศในตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ยอดขาย NETA ในจีน เติบโต 118%
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/01/D2EF3D50-54B8-4E51-B095-06F87CB34410.jpeg)
มร. เป่า จ้วงเฟย กล่าวเสริมถึงผลการดำเนินงานใน NETA ในระดับสากลว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา NETA มีอัตราการเติบโตของยอดจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสูงถึง 118% เมื่อเทียบกับปี 2564 โดยสามารถส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้ารวม 152,073 คัน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นการส่งมอบให้กับลูกค้าในตลาดต่างประเทศ (นอกประเทศจีน) จำนวน 3,456 คัน
ปัจจุบัน NETA ได้ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้าแล้ว 250,000 คัน โดยยอดขายในปี2565 ที่ผ่านมาคิดเป็น 61% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของ NETA นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจซึ่งความสำเร็จในปีที่ผ่านมาเป็นผลลัพธ์จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ทั้งในด้านการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ ด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี ด้านกลยุทธ์การขาย ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย รวมไปถึงแผนการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ทาให้แบรนด์ NETA เป็นที่ยอมรับ และได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคทั่วโลก
ยอดการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปี 2565 รวม 152,073 คัน แบ่งเป็นยอดการส่งมอบ
- NETA V จำนวน 98,847 คัน เติบโต ขึ้น 99%
- NETA U จำนวน 51,021 คัน เติบโต ขึ้น 155%
- NETA S ได้ถูกส่งมอบถึงมือลูกค้าไปแล้วจำนวน 2,205 คัน (เริ่มส่งมอบช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน2565)
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะร่วมปฏิรูปการใช้พลังงานใหม่รวมไปถึงมีส่วนร่วมในการจัดทำห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของโลก เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100% พร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ NETA “Popularizer of Smart EV: สรรสร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้”