จากความสำเร็จของซีดานซาลูนขุมพลังไฟฟ้าจาก BMW อย่าง All-new i7 ที่ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ของวงการรถยนต์ไฟฟ้าลักซ์ซัวรี่ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ล่าสุดผนึกกำลัง M GmbH ในการยกระดับสมรรถนะให้แรงล้ำอีกขั้นด้วย BMW i7 M70 xDrive ที่อาจเรียกได้ว่าซูเปอร์ซาลูนไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดแห่งปี ที่แฟน ๆ BMW M ไม่ควรพลาด
อัปเกรดมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ เค้นสมรรถนะให้สูงถึง 660 แรงม้า และ 1100 นิวตันเมตร
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-13.jpg)
สำหรับ BMW รุ่น i7 xDrive60 ซึ่งเป็นรุ่นที่จำหน่ายในปัจจุบัน จะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 400 กิโลวัตต์ หรือ 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ผสานด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า BMW xDrive และเทคโนโลยี BMW eDrive เจนเนอเรชั่นที่ 5 ให้อัตราเร่งจาก 0 – 96 กม./ชม. ได้ราว ๆ 4.5 วินาที
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- BMW i7 ยนตรกรรมซีดานพรีเมียมขุมพลังไฟฟ้าสุดล้ำทุกมิติ เริ่ม 7,599,000 บาท
- BMW X5 M & X6 M ซูเปอร์เอสยูวีระดับเรือธง แรงล้ำด้วยขุมพลัง Mild Hybrid ใหม่ล่าสุดของซีรี่ย์ M
- BMW XM ซูเปอร์เอสยูวี V8 PHEV 644 แรงม้ารุ่นแรกที่ทรงพลังที่สุดจาก M
แต่ BMW i7 M70 xDrive ได้ปรับปรุงเพื่อมอบสมรรถนะสูงสุด 485 กิโลวัตต์ หรือ 660 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดกระชากใจ 1100 นิวตันเมตร สามารถเค้นอัตราเร่งจาก 0 – 96 กม./ชม. ได้ภายใน 3.5 วินาที แม้จะมีตัวถังที่หนักถึง 2,689 กก. ก็ตาม ทลายสถิติอัตราเร่งของซีรี่ย์ 7 อย่าง M760e xDrive’s ด้วยส่วนต่างเพียง 0.8 วินาที และเมื่อเทียบกับรุ่นเอสยูวีที่ทรงพลังจากแบรนด์ M อย่าง BMW XM Label Red แม้จะมีแรงม้าสูงกว่า แต่แรงบิดน้อยว่าระดับหนึ่ง และทำอัตราเร่งได้เพียง 3.7 วินาที หรือเชือดเฉือนด้วยส่วนต่าง 0.2 วินาที
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-03.jpg)
แม้ในรุ่น BMW i7 M70 xDrive มอเตอร์ล้อหน้าที่ให้สมรรถนะไม่ต่างจาก i7 xDrive60 ด้วยกำลัง 193 กิโลวัตต์ หรือ 259 แรงม้า (PS) แต่มอเตอร์ไฟฟ้าล้อหลังได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยการเพิ่มขดลวดกระตุ้นในสเตเตอร์ของมอเตอร์เป็นสองเท่า จนสามารถเค้นสมรรถนะได้ทรงพลังขึ้นกว่าเดิม 50% จาก 233 กิโลวัตต์ หรือ 312 แรงม้า (PS) เป็น 360 กิโลวัตต์ หรือ 490 แรงม้า (PS) สามารถส่งกำลังได้อย่างสม่ำเสมอ ให้สมรรถนะที่สูงในช่วงความเร็วกลางได้อย่างดีเยี่ยม จนแทบเรียกได้ว่าเป็นมอเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยพัฒนาขึ้นมา
และด้วยโหมด Sport สามารถเค้นแรงบิดรวมให้สูงถึง 1,014 นิวตันเมตรในระหว่างออกตัวพร้อมเปิดระบบควบคุมการออกตัว และสามารถเค้นแรงบิดต่อเนื่องถึงเพดานสูงสุด 1100 นิวตันเมตร แต่หากผู้ขับขี่ต้องการบูสท์แรงบิดสูงสุดในระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยฟังก์ชั่น M Sport Boost พร้อมโหมด “over-boost” ซึ่งนอกจากจะช่วยเร่งความเร็วแล้ว ยังมาพร้อมกับเสียงสังเคราะห์พิเศษที่รังสรรค์โดยนักประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ Hans Zimmer
โหมด Max Range ช่วยจำกัดการใช้พลังงานแบบ Old School
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-05-1.jpg)
ด้านแหล่งจ่ายพลังงานนั้นระบุว่าใช้แบตเตอรี่ 101.7 กิโลวัตต์ ขนาดเดียวกันกับ i7 xDrive60 ด้วยการใช้พลังงานที่สูง และน้ำหนักมากขึ้น ส่งผลให้ระยะทางวิ่งไกลที่สุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้งต้องลดลงจาก 509 กม. เป็น 472 กม. (EPA) ขณะเดียวกันประสิทธิภาพการชาร์จสูงสุดหากชาร์จผ่าน DC จะสามารถรองรับได้สูงสุด 195 กิโลวัตต์ หรือชาร์จจาก 10 – 80% ได้ภายใน 34 นาที
ความพิเศษของรุ่นนี้คือการเปิดตัวโหมดใหม่ล่าสุด “Max Range” โดยโหมดนี้จะจำกัดความเร็วสูงสุด 90 กม. / ชม. และปิดการใช้งานสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่คุณใช้งาน เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ไม่จำเป็นต่อระบบขับขี่หลัก, ระบบควบคุมอุณหภูมิในเบาะและพวงมาลัย เป็นต้น ซึ่งจะช่วยยืดระยะทางให้วิ่งได้ไกลขึ้น หรือใช้ไฟฟ้าน้อยลงเพื่อเพิ่มโอกาสในการหาสถานีชาร์จที่พร้อมใช้งานจริง ๆ
เซ็ตช่วงล่างใหม่ตอบรับความแรงเต็มพิกัด
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-12.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-10.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-11.jpg)
และเพื่อให้รองรับกับสมรรถนะที่เพิ่มสูงขึ้น ตัวรถมาพร้อมกับการอัปเกรดแชสซีใหม่จาก M, ติดตั้งโช้คอัพถุงลมทั้งสองเพลาแบบปรับได้พร้อมแดมเปอร์ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถปรับได้ด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติ, เพิ่มแผงเสริมระหว่างแผงกั้นและเสาสตรัทด้านหน้าเพื่อยกระดับความแข็งแรงของโครงสร้าง รวมถึงใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Integral Active Steering และ Active Roll Stabilization ทำงานร่วมกัน
พร้อมคาลิเปอร์เบรก M Sport สีน้ำเงิน ที่จับจานเบรกขนาดใหญ่, ล้ออัลลอยที่มีทั้งแบบ 20 นิ้ว และล้ออัลลอย M 21 นิ้ว และมียางสมรรถนะสูงเป็นออพชั่นเสริม
อัปเกรดบุคลิกใหม่ในสไตล์ M
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-02.jpg)
สำหรับรถรุ่นนี้จะได้รับการอัปเกรดบุคลิกใหม่ด้วยชุดแต่งจาก M อาทิ สเกิร์ตข้าง M, โลโก้ M พร้อมชิ้นส่วนตกแต่งแผงด้านข้างด้านหน้า, ชิ้นส่วนตกแต่ง M High-gloss Shadowline รอบคัน และกระจกมองข้าง M สีดำเงา ที่ดีไซน์ใหม่ให้มีความสปอร์ตยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันหากลูกค้าเลือกเสริมแพ็คเกจพิเศษ M Performance Professional จะได้รับสปอยเลอร์หลัง M สีดำ และชิ้นส่วนอื่น ๆ ควบคู่ด้วย อีกทั้งยังมาพร้อมกับสีตัวถังสุดพิเศษจาก BMW Individual ที่มีให้เลือกกว่า 100 เฉดสี
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-07.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-08.jpg)
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-09.jpg)
ขณะที่ภายในได้มีการตกแต่งบุคลิกพิเศษจากชุดแต่ง M หลายรายการ รวมถึงระบบปฏิบัติการ 8.5 ใหม่ของ BMW ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างเมนู และเสนอทางลัดการเข้าสู่โหมด “QuickSelect” ให้สะดวกยิ่งขึ้น
![](https://mono29.com/app/uploads/2023/04/BMW-i7-M70-xDrive-05.jpg)
BMW i7 M70 xDrive จะเริ่มวางจำหน่ายภายในครึ่งปีหลัง 2023 จะผลิตที่โรงงาน Dingolfing ในเยอรมนี ควบคู่ไปกับการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่สำหรับ i7 ส่วนราคาจำหน่ายจะเปิดตัวในลำดับต่อไป สำหรับ BMW i7 xDrive60 ที่จำหน่ายในไทยจะมีราคาเริ่มต้นที่ 7,599,000 บาท ซึ่งคาดว่าราคาของซูเปอร์ซาลูนจาก M นี้อาจจะสูงกว่า 8 ล้านบาทขึ้นไปโดยประมาณ
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com