Toyota Motor เตรียมเปิดตัว C-HR ครอสโอเวอร์ยอดนิยมในยุโรปเจนเนอเรชั่นที่สองด้วยการเผยโฉมโปรโตไทป์ Toyota C-HR Prologue concept ที่มาพร้อมกับการดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย พร้อมขุมพลังลูกผสมที่มีทั้งไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด เตรียมพัฒนา ผลิต และจำหน่ายในช่วงปี 2023 เป็นต้นไป
เฉกเช่นเดียวกับเจนเนอเรชั่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา โมเดล Toyota C-HR Prologue concept รุ่นล่าสุดนี้ได้รับการออกแบบโดย Toyota ED2 studio (Toyota European Design Development) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส จึงยังคงเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว ดูปราดเปรียวรวดเร็ว และสัดส่วนที่แปลกใหม่เหมือนโฉมเจนแรก แต่ยกระดับความทันสมัยเพิ่ม โดยได้แรงบันดาลใจจจากรถคอนเซ็ปต์ Toyota Small SU EV Concept ที่เปิดตัวเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา แต่มีการปรับดีไซน์กันชน ส่วนหลังคา และล้อให้เหมาะสมกับการผลิตมากขึ้น
เมื่อเทียบกับรถคอนเซ็ปต์ Small SU EV Concept และ C-HR Prologue concept ยังมีการคงบุคลิกหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้า Hammerhead พร้อมไฟหน้าแบบ LED เต็มรูปแบบ ส่วนหน้ามาพร้อมกับการดีไซน์ช่องดักลมด้านหน้าเพื่อแอโร่ไดนามิกที่ดียิ่งขึ้น, ออกแบบแนวหลังคาและเสา C ใหม่ และกระจกบังลมหลังที่ลาดเอียงมา, ล้อเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ขึ้น แต่ระยะยื่นสั้นลง กทำให้รถ SUV ดูสปอร์ตและกะทัดรัดมากขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
นอกจากนี้ ทีมออกแบบของ Toyota ยังเลือกใช้สีทรีโทน โดยผสมผสานเฉดสีซิลเวอร์เมทัลสำหรับตัวถังรถเข้ากับสีดำคาร์บอนรีไซเคิลสำหรับส่วนหลัง และเน้นโทนสี “กำมะถัน” บนกันชนและสปอยเลอร์หลัง
ทั้งนี้ เวอร์ชั่นโฉมจำหน่ายจริงที่จะเปิดตัวในปีหน้า คาดว่าจะคงการออกแบบภายนอกส่วนใหญ่ของเวอร์ชั่นโปรโตไทป์ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์รถบางรายการ เช่น มือจับเปิดประตู Pop-Up ที่อาจจะใช้มือจับเปิดประตูแบบปกติแทน
เป็นที่น่าเสียดายที่ภายในไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดออกมา แต่ทางบริษัทฯ ระบุว่าจะมีความกว้าง และทันสมัยมากขึ้น ส่วนข้อมูลขุมพลังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมา แต่คาดว่าจะพัฒนาบนแพลตฟอร์ม TNGA-C พร้อมขุมพลังที่จะมีทั้งไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด ซึ่งหมายความว่าจะเป็นโมเดลที่ 3 ที่ใช้ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่จำหน่ายในยุโรป รองจาก RAV4 และ Prius
Toyota C-HR โฉมใหม่จะเปิดสายการผลิตที่โรงงานโตโยต้าในตุรกีเช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน ส่วนชุดแบตเตอรี่จะถูกประกอบในโรงงานในยุโรปโดยใช้เซลล์แบตเตอรี่นำเข้า รายละเอียดอื่น ๆ ติดตามเพิ่มเติมในเร็ว ๆ นี้
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com