เมื่อไม่นานมานี้ Mazda ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยกลยุทธ์ และแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งได้ปรับปรุงกลยุทธ์จัดการระยะกลาง และนโยบายการจัดการขั้นพื้นฐานภายในปี 2030 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันในด้านต่าง ๆ รวมถึงเปิดเผยรถคอนเซ็ปต์ใหม่ Mazda Vision Study Model ที่สะท้อนถึงแนวทางการพัฒนายานยนต์แห่งอนาคต
กลุยุทธ์ระยะกลางใหม่ครอบคลุมทั้งสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย
ทางบริษัทฯ ได้เผยข้อมูลผ่านคลิปบรรยายพิเศษถึงการปรับปรุงกลยุทธ์จัดการระยะกลาง และนโยบายการจัดการขั้นพื้นฐานสำหรับปี 2030 อันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม, มาตรการด้านความปลอดภัย, เทรนด์ผู้บริโภค, ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น และการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีขั้นสูง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินหน้าสู่ผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมทั่วโลก ผู้ผลิตรถยนต์เชื่อว่าอัตราส่วนการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกจะอยู่ที่ 40% ภายในปี 2030 เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมที่ 25%
กลยุทธ์การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทั้งสามเฟสจะ “เหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของภูมิภาค และความต้องการด้านสิ่งแวดล้อม” และจะได้รับการสนับสนุนจากการลงทุนมูลค่า 1.5 ล้านล้านเยน ตลอดจนจัดหาพันธมิตรใหม่ตั้งแต่แบตเตอรี่ไปจนถึงมอเตอร์ และชิป
เริ่มจากเฟสแรกหว่างปี 2022 ถึง 2024 จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา เฟสที่สองระหว่างปี 2025 ถึง 2027 จะเป็น “ช่วงเปลี่ยนผ่าน” ด้วยการแนะนำระบบไฮบริดใหม่ และรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่สำหรับตลาดจีน ควบคู่กับตลาดประเทศอื่นๆ ทั่วโลก สุดท้าย เฟสที่สามระหว่างปี 2028 ถึง 2030 จะรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวทั่วโลก
นอกจากนี้ Mazda ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างโรงงานที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2035 ด้วยการยกรดับอนุรักษ์พลังงาน, การใช้พลังงานหมุนเวียน และการใช้เชื้อเพลิงที่เป็นกลางทางคาร์บอน ควบคู่กับการบริหารทรัพยากรวัตุดิบ และการกำจัดของเสีย
รวมถึงการลงทุนในทรัพยากรบุคคลดิจิทัลที่เชี่ยวชาญด้าน AI และ IT ในการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง เพื่อตั้งเป้าภายในปี 2040 จะลดอุบัติเหตุทางรถยนต์ของแบรนด์ให้เหลือ 0 อีกด้วย
Mazda Vision Study Model
สำหรับ Mazda Vision Study Model ที่ได้รับการนำเสนอในรูปแบบของภาพกราฟิกซีจีของรถสปอร์ตคูเป้สองประตูสีขาวสะอาดตา โดยมีพิกัดขนาดตัวถังใกล้เคียงกับ MX-5 แม้จะไม่ได้เผยรายละเอียดมากนัก แต่รถคอนเซ็ปต์มาพร้อมกับประตูปีกนกคู่ กระจังหน้าเว้าลึก เช่นเดียวกับไฟหน้าที่ออกแบบให้เหมือนกับไฟหน้า Pop up, กระจกบังลมหลังขนาดใหญ่ และไหล่อันล่ำสันชวนให้นึกถึง RX-7 ขณะที่ส่วนท้ายและไฟท้าย LED จะคล้ายกับ MX-5 สามเจนเนอเรชั่นแรก นอกจากนี้รายละเอียดส่วนท้ายมีการยื่นออกมาเล็กน้อย ซึ่งคาดว่าอาจจะรองรับทั้งแบตเตอรี่ หรือเครื่องยนต์แบบโรตารี่ที่กำลังพัฒนาอยู่ ณ ขณะนี้
แม้จะไม่ได้เผยรายละเอียดทางเทคนิคอื่น ๆ มากนัก แต่โมเดลนี้จะสะท้อนถึงการออกแบบครั้งใหม่ให้สอดคล้องกับขุมพลังสมัยใหม่ โดยที่ยังคงไว้ซึ่งประสบการณ์การขับขี่ที่ให้ “มนุษย์เป็นศูนย์กลาง” โดยแท้จริง และยังคงมอบคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ของ Mazda ให้แก่ลูกค้าต่อไป
เครดิตข้อมูลจาก newsroom.mazda.com และ MazdaOfficial https://www.carscoops.com/2022/11/mazda-updates-electrification-goals-teases-miata-like-concept/
