Mazda ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัว Mazda CX-8 รุ่นปรับโฉม ยกระดับทั้งรูปลักษณ์ และเทคโนโลยีใหม่ให้โดดเด่น ทันสมัย เดินทางได้นุ่มนวลกว่าเดิม พร้อมกับเพิ่ม 2 เกรดระดับพรีเมี่ยมใหม่สะท้อนตัวตนให้ชัดเจน ได้แก่ Grand Journey และ Sports Appearance รวมถึงยกระดับเกรด Exclusive Mode ให้สมบูรณ์แบบ เหนือระดับยิ่งขึ้น พร้อมให้คุณได้เป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นที่ 2,994,200 เยน
รายละเอียดการปรับปรุง Mazda CX-8 รุ่นปรับโฉม
เริ่มจากรายละเอียดภายนอกได้มีการปรับปรุงรายละเอียดกันชนหน้า และหลังดีไซน์สามมิติที่รับกับเส้นสายตัวถังอย่างลงตัว, กระจังหน้าแบบตาข่ายบล็อกที่เฉียบคมและทันสมัย, ไฟหน้า-ไฟท้าย ให้เป็นดีไซน์ล่าสุดของ Mazda เพื่อสร้างดีไซน์ที่หลอมรวมความแข็งแกร่งของ SUV เข้ากับความสง่างามในเมือง โดยยังคงความปราดเปรียวภายใต้การออกแบบ Kodo Design อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์
นอกจากนี้ เทคโนโลยีการเคลือบที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง”TAKUMINURI” ได้เพิ่มสีใหม่อย่างสีขาว Rhodium White Premium Metallic ส่งตรงจากรุ่น CX-60 ที่มอบความสวยงามเหนือระดับอีกด้วย
นอกเหนือจากการนำแนวคิดของ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE มาใช้แล้ว ยังนำเทคโนโลยีสมัยใหม่นำมาใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนาดใหญ่อย่างเต็มรูปแบบ อาทิ “MAZDA INTELLIGENT DRIVE SELECT = Mi-DRIVE ที่เสริมความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างรถ และผู้ขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น โดยยังคงไว้ซึ่งโหมด “NORMAL” และ “SPORT” ที่มอบประสิทธิภาพการขับขี่ การเกาะถนนได้เหมาะสมตามสภาพการขับขี่
ด้านช่วงล่างยังได้รับการปรับปรุงสปริงและแดมเปอร์เพื่อลดการสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสารมากขึ้นกว่าเดิม แม้วิ่งบนถนนขรุขระ ควบคู่กับการปรับปรุงสปริงในเบาะนั่งให้ยกกระดูกเชิงกรานขึ้น ทำให้ท่านั่งมั่นคง ลดความเมื่อยล้าในระหว่างโดยสาร
เฉพาะรุ่น SKYACTIV-G 2.5T ได้ปรับปรุงแรงเหยียบคันเร่งที่หนักกว่า เพื่อให้สามารถควบคุมแรงบิดความเร็วต่ำได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น ควบคู่กับการปรับปรุงเกียร์อัตโนมัติ และ Lockup Control ใหม่ ให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนเกียร์ได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ด้านระบบความปลอดภัยก็ได้รับการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบในการปกป้องผู้โดยสารยิ่งขึ้น อาทิ ระบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ ALH ที่เพิ่มการป้องกันแสงสะท้อนในโหมดไฟสูงพร้อมการควบคุมระดับไฟอย่างประณีตเพื่อปรับปรุงทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับปรุงการรับรู้ถึงอันตรายของผู้ขับขี่
ระบบ Cruising & Traffic Support (CTS) ซึ่งช่วยรักษาระยะห่างระหว่างรถของคุณ กับรถคันหน้าด้วยความเร็วที่กำหนด แม้ว่าผู้ขับขี่จะไม่ได้เหยียบคันเร่งหรือแป้นเบรกก็ตาม
ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์อำนวยความสะดวกสบาย ได้มีการเพิ่มฟังก์ชันการเชื่อมต่อแบบไร้สายใน Apple CarPlay ของ Mazda Connect และมีพอร์ท USB Type-C ด้วย
รายละเอียด Mazda CX-8 Grand Journey
เป็นเกรดพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการออกไปสัมผัสธรรมชาติกับครอบครัว และต้องการความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ขณะเดียวกันยังมอบบุคลิกที่ดูหรูหรา แต่อ่อนโยนสไตล์รถครอบครัว เริ่มจากภายนอกจะได้รับ
สำหรับภายใน ตัวเบาะนั่ง และขอบประตูที่ทำจากหนังสังเคราะห์และผ้าในสีเทาอ่อน แผงคอนโซลตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีเทา และโครเมียมขัดเงา นอกจากนี้ มีเพียงเกรด Grand Journey Mi-DRIVE เท่านั้นที่มี “Off-Road Mode” ซึ่งเหมาะสำหรับการขับขี่กลางแจ้งรวมถึงการขับขี่บนถนนที่ขรุขระ เช่น ถนนลูกรัง และถนนหิมะลึก
รายละเอียด Mazda CX-8 Sports Appearance
มอบลุคสปอร์ตสง่างาม ด้วยชิ้นส่วนสีดำทั้งกระจังหน้า กันชนล่าง กาบข้าง กาบข้างใต้ตัวรถ และกระจกมองข้าง, ล้อขนาด 19 นิ้วสีดำเมทัลลิก, ปลอกท่อไอเสียขนาดใหญ่
ส่วนภายในจะได้รับเบาะหนังเรียบสีแดงหรือสีดำ และการเย็บตะเข็บด้ายสีเทาอ่อน, แผงหน้าปัดตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีเงิน/โครเมี่ยม
เติมเต็มความสมบูรณ์เหนือระดับของเกรด Exclusive Mode
มอบความหรูหราเหนือระดับด้วยการนำเสนอชุดกันชนหน้า-หลังส่วนล่าง ซุ้มล้อ กาบข้าง สีเดียวกับตัวถัง, กระจังหน้าสีกันเมทัล กันชนหน้าและหลังสีเงิน ราวหลังคา และปลอกท่อไอเสียขนาดใหญ่, ล้อ 19 นิ้วสีเมทัลลิกแบบใหม่
ขณะที่ภายในได้นำเสนอตัวเลือกเบาะหนัง Nappa สีขาวล้วนหรือสีดำ และแผงคอนโซลตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีเงินแบบแฮร์ไลน์ รวมถึงการตกแต่งภายในด้วยการเย็บแบบควิลท์ เป็นต้น
Mazda CX-8 รุ่นปรับโฉมใหม่ สนนราคาตั้งแต่ 2,994,200 ถึง 5,058,900 เยน หรือราว ๆ 7.63 แสนบาท ถึง 1.28 ล้านบาท พร้อมส่งมอบแก่ลูกค้าในปลายเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป ส่วนสเปคไทยติดตามได้ในเร็ว ๆ นี้
เครดิตข้อมูลจาก mazda.co.jp
