คัดลอก URL แล้ว
ภาคกลาง PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนภาคเหนือยังวิกฤติต่อเนื่อง

ภาคกลาง PM 2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนภาคเหนือยังวิกฤติต่อเนื่อง

KEY :

สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณตอนกลางของประเทศ

ซึ่งในพื้นที่ภาคเหนือ ในภาพรวมปริมาณฝุ่นยังคงทรงตัวใกล้เคียงกับเมื่อวานที่ผ่านมา แต่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นบริเวณทางตอนล่างของภาค ต่อเนื่องลงมาถึงบริเวณภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียเหนือ

ภาพ – ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โดยในระยะนี้ สภาพอากาศบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการระบายอากาศไม่ดีนัก ส่งผลให้ฝุ่นควันสามารถสะสมตัวได้มากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่า ในช่วงสงกรานต์นี้ มีแนวโน้มที่การระบายอากาศจะลดลงในหลายพื้นที่ แบ่งเป็น

ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือนั้น ยังคงเป็นช่วงที่การระบายอากาศในพื้นที่ทำได้ไม่ดีนัก มีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ซึ่งจะต่อเนื่องไปจนถึงช่วงวันที่ 19 เม.ย. ทำให้ในตลอดช่วงสงกรานต์นี้ พื้นที่ภาคเหนือยังคงเผชิญกับสภาวะฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่อง

ภาพ – ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สำหรับในภาคกลาง มีการระบายอากาศได้ไม่ดีนัก และมีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้นเช่นกัน แต่ในบางพื้นที่มีการยกตัวของอากาศดี และมีฝนบางแห่ง ส่งผลให้มีฝุ่นสะสมได้ลดลง

แต่บริเวณตอนบนของภาคกลาง ภาคตะวันตก ยังคงได้รับผลกระทบจากฝุ่นควันที่เกิดขึ้นจากการเผาในระยะนี้ ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ในพื้นที่ภาคเหนือและด้านตะวันตกของประเทศ ทำให้ฝุ่นควันยังคงสะสมตัวได้มากขึ้น

คุณอาจจะสนใจเรื่องนี้
พื้นที่ปลอดภัยจาก PM 2.5 ไม่ถึง 1% และผู้ที่หายใจในอากาศที่ปลอดภัยมีเพียง 0.001% เท่านั้น

กรุงเทพฯ – ปริมณฑลส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล ในระยะนี้ ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน หลายพื้นที่สภาพอากาศยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี แต่จะมีบางพื้นที่ที่เริ่มมีแนวโน้มปริมาณฝุ่นเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของกรุงเทพฯ

โดยเมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา รายงานการตรวจวัดค่าฝุ่นของกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร พบว่า มี 2 พื้นที่ด้วยกันที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน อยู่ในระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่

ในช่วงวันที่ 14-15 เม.ย. คาดว่า สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ – ปริมณฑลจะมีสภาพอากาศปิดในบางพื้นที่ ส่งผลให้ฝุ่นควันสะสมตัวได้มากขึ้น จึงแนะนำให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การรายงานในช่วงดังกล่าว

10 จุดค่าฝุ่นสูงสุดในไทย

สำหรับ 10 จุดที่มีรายงานค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงที่สุดในประเทศเมื่อเวลา 08.00 น.จากรายงานของ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่

จุดตรวจวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5*
1รพ.สต.บ้านใหม่
ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
771
2รพ.สต.บ้านแกน้อย
จ.เชียงใหม่
770
3บ้านหลวง
ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
715
4บ้านสันกลาง
ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
687
5บ้านทุ่งบวกข้าว
ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
660
6บ้านขวัญประชา
ต.เขื่อนผาก อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
654
7วัดแม่ปูนล่าง
ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงใหม่
622
8บ้านทรายทอง
ต.เขื่อนผาก อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
619
9บ้านห้วยกุ
ต.ป่าตุ้ม อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
601
10บ้านสันปอธง
ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
586

* ค่าฝุ่นละอองเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

จุดความร้อนในภูมิภาคยังพุ่งสูงขึ้น

รายงานจุดความร้อนยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานการตรวจนับจุดความร้อนจาก GISTDA เมื่อวานที่ผ่านมา ( 11 เม.ย. ) พบจุดความร้อนในภูมิภาคจำนวน 23,868 จุด ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้

ซึ่งจำนวนจุดความร้อนที่พบในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคมีจำนวนดังต่อไปนี้

โดยสถานการณ์ในประเทศลาวมีการพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 พันจุด ในขณะที่ในเมียนมาร์ลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนในไทย เวียดนาม กัมพูชา ก็ยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับในประเทศไทยนั้น จุดความร้อนที่พบส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยพบทั้งหมด 1,575 จุด เพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน

โดย 10 จังหวัดที่มีรายงานจุดความร้อนสูงสุดได้แก่

จังหวัดจำนวนจุดความร้อน
1เชียงใหม่382
2เชียงราย216
3น่าน197
4แม่ฮ่องสอน184
5ตาก130
6พะเยา90
7กาญจนบุรี84
8แพร่64
9ลำปาง57
10กำแพงเพชร52

ข่าวที่เกี่ยวข้อง