เข้าสู่ฤดูฝนไข้เลือดออกวนกลับมาอีกครั้ง “ยุงลาย” พานะนำโรค ไข้เลือดออก เป็นสัตว์ที่ชอบอาศัยและวางไข่อยู่ตามแหล่งน้ำหรือภาชนะในบ้านที่มีน้ำขัง แพร่พันธุ์ได้ง่าย ชอบออกมาหากินดูดเลือดคนในช่วงเวลากลางวันก่อนมืด และหลบตามแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง บริเวณมุมมืด หรือกองเสื้อผ้า
พญ.ภคพร ทองแตง อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคเลือด คลินิกอายุรกรรม โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า ไข้เลือดออกเป็นโรคติดต่อที่ระบาดหนักมากในช่วงฤดูฝน มักพบในประเทศเขตร้อน และพบได้บ่อยไม่แพ้โรคอื่น เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า “ไวรัสเดงกี” (Dengue Virus) ซึ่งมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ โดยมียุงลายเป็นพาหะนำโรค เกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ หากเคยป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้วก็สามารถติดเชื้อซ้ำได้ ถ้าได้รับเชื้อต่างชนิดกัน
เช็คอาการของไข้เลือดออก / หากเป็นห้ามซื้อยามารับประทานเอง
- มีไข้สูง เกิน 2 วัน
- คลื่นไส้หรืออาเจียน
- ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว และหน้าแดงเล็กน้อย
- มีจุดเลือดออกตามตัว
- ปวดท้อง และเบื่ออาหาร
หากมีอาการดังกล่าว ห้ามซื้อยามารับประทานเองโดยเด็ดขาด ควรรีบพบแพทย์โดยทันที ถึงแม้อาการของโรคไข้เลือดออกจะไม่รุนแรง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เสียชีวิตได้
วิธีป้องกัน
ไข้เลือดออกป้องกันได้ ด้วยการระมัดระวังไม่ให้ยุงกัด หมั่นทำความสะอาดบ้าน จัดเก็บมุมมืดต่างๆ ของบ้านให้มีแสงสว่าง ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ไม่มีแหล่งน้ำขังภายในบ้านตามจุดต่างๆ เช่น ที่รองตู้กับข้าว น้ำขังหน้าบ้าน ถาดรองกระถางต้นไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายเข้ามาอาศัยและวางไข่
ความแตกต่างของ ไข้เลือดออก และไข้หวัดใหญ่
ไข้เลือดออก VS ไข้หวัดใหญ่
ไข้เลือดออก : โรคติดต่อที่เกิดจากการถูกยุงลายที่มีเชื้อไวรัส “เดงกี” กัดที่ร่างกาย
-ไข้สูงเฉียบพลัน 2-7 วัน
-อาจมีเลือดกำเดาไหล
-เลือดออกเป็นจุด ๆ ตามร่างกาย
ไข้หวัดใหญ่ : โรคติดต่อทางระบบทางเดินหายใจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ติดต่อจากคนสู่คนผ่านการไอ จาม
-ไข้สูงติดต่อกัน 2-4 วัน
-มีอาการเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย เช่น ไอ แน่นหน้าอก ฯลฯ
หากมีข้อสงสัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ขอบคุณข้อมูลจาก : พญ.ภคพร ทองแตง อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคเลือด คลินิกอายุรกรรม โรงพยาบาลหัวเฉียว,