กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์สุขภาพจิตของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะปรากฏการณ์ “นิวเยียร์บลูส์” (New Year Blues) หรือภาวะซึมเศร้าหลังเทศกาลปีใหม่ ที่แม้จะไม่ใช่โรคทางจิตเวช แต่เป็นสภาวะทางอารมณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง
สาเหตุของภาวะซึมเศร้าหลังปีใหม่
แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์จากโรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital ได้อธิบายถึงสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะ New Year Blues ว่ามีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- ความคาดหวังที่สูงเกินไป
หลายคนมักตั้งเป้าหมายหรือความคาดหวังไว้สูงสำหรับปีใหม่ เมื่อพบว่าไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ จึงเกิดความผิดหวังและนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า - การทบทวนเหตุการณ์ในปีที่ผ่านมา
ช่วงปีใหม่เป็นช่วงที่หลายคนมักย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเศร้าหรือเสียใจกับเรื่องราวที่ไม่เป็นไปตามที่หวัง - ความเครียดสะสม
ปัญหาจากการทำงาน การเรียน หรือปัญหาส่วนตัว ที่สะสมมาตลอดทั้งปีอาจปะทุขึ้นในช่วงเวลานี้
อาการที่พบและระยะเวลาที่เกิด
นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยว่าอาการของภาวะ New Year Blues มักมีดังนี้:
- ความรู้สึกซึมเศร้า เบื่อหน่าย
- อาการท้อแท้ รู้สึกไร้ค่า สิ้นหวัง
- ขาดความสนใจในสิ่งรอบตัว
- มีปัญหาด้านการนอน
- การรับประทานอาหารผิดปกติ
- ในบางรายอาจมีความคิดอยากทำร้ายตัวเอง
โดยทั่วไปอาการมักคงอยู่ประมาณ 2-3 วัน แต่ในบางรายอาจยาวนานถึง 2-3 สัปดาห์ และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีนัยสำคัญ
สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง
จากการสำรวจผ่านระบบ Mental Health Check In ของกรมสุขภาพจิต พบข้อมูลที่น่าเป็นห่วงในช่วงเดือนธันวาคม 2564 โดยประชาชนมีความเครียดสูงถึง 5.24% และมีความเสี่ยงซึมเศร้า 6.72% แม้จะมีแนวโน้มลดลงจากเดือนพฤศจิกายนที่มีตัวเลขอยู่ที่ 8.41% และ 10.60% ตามลำดับ แต่ยังเป็นตัวเลขที่ต้องเฝ้าระวัง
แนวทางการป้องกันและดูแลตนเอง
นายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้แนะนำแนวทางการดูแลตนเอง 4 ข้อสำคัญ ดังนี้:
- การเปิดใจพูดคุย
ควรแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับคนใกล้ชิด ไม่เก็บความรู้สึกไว้คนเดียว - การเข้าสังคม
ส่งเสริมให้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลุ่มที่สนใจ - การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม
กำหนดเป้าหมายชีวิตที่เป็นรูปธรรมและท้าทายในระดับที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป - การขอความช่วยเหลือ
เมื่อพบว่าอาการรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยไม่ลังเล
การรักษาและช่องทางการขอความช่วยเหลือ
รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมช่องทางให้ความช่วยเหลือประชาชนหลายช่องทาง:
- เว็บไซต์ “www.วัดใจ.com”: ให้บริการประเมินครอบคลุมทั้งด้านภาวะซึมเศร้า ความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย และภาวะหมดไฟในการทำงาน
- สายด่วนสุขภาพจิต 1323: ให้บริการปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
- LINE@1323forthai: ช่องทางการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญผ่านแอปพลิเคชัน LINE
คำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะนำเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ควรใช้เวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัวหรือคนสนิท หากไม่สามารถเดินทางไปพบกันได้ ก็สามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการเชื่อมความสัมพันธ์ได้ และที่สำคัญคือการมองเห็นคุณค่าของตนเองและสิ่งดีๆ ที่ได้ทำมาตลอดปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่าการป้องกันและการขอความช่วยเหลือแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยไม่ให้อาการลุกลามจนรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตอยู่เดิม ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้