คัดลอก URL แล้ว
“New Year Blues” ภาวะซึมเศร้าหลังปีใหม่ – ปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่ควรมองข้าม

“New Year Blues” ภาวะซึมเศร้าหลังปีใหม่ – ปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่ควรมองข้าม

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์สุขภาพจิตของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะปรากฏการณ์ “นิวเยียร์บลูส์” (New Year Blues) หรือภาวะซึมเศร้าหลังเทศกาลปีใหม่ ที่แม้จะไม่ใช่โรคทางจิตเวช แต่เป็นสภาวะทางอารมณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างจริงจัง

สาเหตุของภาวะซึมเศร้าหลังปีใหม่

แพทย์หญิงณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล จิตแพทย์จากโรงพยาบาล BMHH – Bangkok Mental Health Hospital ได้อธิบายถึงสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะ New Year Blues ว่ามีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

  1. ความคาดหวังที่สูงเกินไป
    หลายคนมักตั้งเป้าหมายหรือความคาดหวังไว้สูงสำหรับปีใหม่ เมื่อพบว่าไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ จึงเกิดความผิดหวังและนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า
  2. การทบทวนเหตุการณ์ในปีที่ผ่านมา
    ช่วงปีใหม่เป็นช่วงที่หลายคนมักย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกเศร้าหรือเสียใจกับเรื่องราวที่ไม่เป็นไปตามที่หวัง
  3. ความเครียดสะสม
    ปัญหาจากการทำงาน การเรียน หรือปัญหาส่วนตัว ที่สะสมมาตลอดทั้งปีอาจปะทุขึ้นในช่วงเวลานี้

อาการที่พบและระยะเวลาที่เกิด

นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยว่าอาการของภาวะ New Year Blues มักมีดังนี้:

โดยทั่วไปอาการมักคงอยู่ประมาณ 2-3 วัน แต่ในบางรายอาจยาวนานถึง 2-3 สัปดาห์ และอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีนัยสำคัญ

สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง

จากการสำรวจผ่านระบบ Mental Health Check In ของกรมสุขภาพจิต พบข้อมูลที่น่าเป็นห่วงในช่วงเดือนธันวาคม 2564 โดยประชาชนมีความเครียดสูงถึง 5.24% และมีความเสี่ยงซึมเศร้า 6.72% แม้จะมีแนวโน้มลดลงจากเดือนพฤศจิกายนที่มีตัวเลขอยู่ที่ 8.41% และ 10.60% ตามลำดับ แต่ยังเป็นตัวเลขที่ต้องเฝ้าระวัง

แนวทางการป้องกันและดูแลตนเอง

นายแพทย์จุมภฎ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้แนะนำแนวทางการดูแลตนเอง 4 ข้อสำคัญ ดังนี้:

  1. การเปิดใจพูดคุย
    ควรแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับคนใกล้ชิด ไม่เก็บความรู้สึกไว้คนเดียว
  2. การเข้าสังคม
    ส่งเสริมให้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เช่น การออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลุ่มที่สนใจ
  3. การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม
    กำหนดเป้าหมายชีวิตที่เป็นรูปธรรมและท้าทายในระดับที่เหมาะสม ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป
  4. การขอความช่วยเหลือ
    เมื่อพบว่าอาการรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโดยไม่ลังเล

การรักษาและช่องทางการขอความช่วยเหลือ

รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเตรียมช่องทางให้ความช่วยเหลือประชาชนหลายช่องทาง:

  1. เว็บไซต์ “www.วัดใจ.com”: ให้บริการประเมินครอบคลุมทั้งด้านภาวะซึมเศร้า ความเสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย และภาวะหมดไฟในการทำงาน
  2. สายด่วนสุขภาพจิต 1323: ให้บริการปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
  3. LINE@1323forthai: ช่องทางการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญผ่านแอปพลิเคชัน LINE

คำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ

แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต แนะนำเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ควรใช้เวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัวหรือคนสนิท หากไม่สามารถเดินทางไปพบกันได้ ก็สามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการเชื่อมความสัมพันธ์ได้ และที่สำคัญคือการมองเห็นคุณค่าของตนเองและสิ่งดีๆ ที่ได้ทำมาตลอดปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่าการป้องกันและการขอความช่วยเหลือแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยไม่ให้อาการลุกลามจนรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตอยู่เดิม ควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้


ข่าวที่เกี่ยวข้อง