ปีนี้ยังคงเป็นปีทองสำหรับชาวนาไทย นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ระบุว่า ราคาข้าวช่วงนี้ พุ่งสูงในรอบ 16 ปี ขณะที่ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า ราคาข้าวที่สูง เนื่องจากอินเดียระงับการส่งออก และปัญหาภัยแล้ง ทำให้ความต้องการนำเข้าเพิ่มขึ้น ข้าวราคาดีก็ทำให้ชาวนาวางแผนปลูกข้าวต่อเนื่อง แม้จะเสี่ยงกับภัยแล้ง
ชาวนาในตำบลนางลือ อำเภอเมืองชัยนาท เร่งเกี่ยวข้าวเพื่อนำไปขายให้กับสหกรณ์รับซื้อข้าวในพื้นที่ ช่วงนี้ข้าวราคาดี ขายได้ที่ตันละ 10,500 -11,000 บาท เมื่อเทียบกับต้นทุน ยังพอมีเงินเหลือ จึงมีแผนที่จะปลูกข้าวรอบใหม่ต่อเนื่อง แม้ว่าจะเริ่มแล้ง
พนักงานตรวจรับข้าวเปลือกของสหกรณ์รับซื้อข้าว จังหวัดชัยนาท บอกว่า ราคารับซื้อข้าวเป็นไปตามกลไกตลาด และขึ้นกับความชื้น เช่น ข้าว กข.41 ความชื้น 15% รับซื้อตันละ 12,000 บาท แต่หากความชื้น 25% อยู่ที่ตันละ 10,200 บาท
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรกรไทย ระบุว่า ราคาข้าวที่ชาวนาขายได้ในขณะนี้ ถือว่าดีที่สุดในรอบ 16 ปี
และเป็นราคาที่สูงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว จากเดิมที่ชาวนาขายข้าวได้ตันละไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาท แต่ขณะนี้พุ่งไปตันละหนึ่งหมื่นกว่าบาท ราคาข้าวที่สูง ก็ทำให้เกษตรกร ทำนาปรังเต็มพื้นที่
กรมการค้าภายใน รายงานราคาข้าวเปลือกทุกชนิด ปรับตัวสูงขึ้น โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้น 15 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ตันละ 14,850 บาท /ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 12,300 บาท
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า ราคาข้าวปีนี้ ยังเป็นปีทองสำหรับเกษตรกรไทย เพราะภัยแล้ง ทำให้ความต้องการข้าวมากขึ้น
เช่น อินโดนีเซีย ผลผลิตในประเทศที่ลดลงจากเดิมต้องการนำเข้า 2 ล้านตัน เพิ่มเป็น 3.6 ล้านตัน ส่วนอินเดียยังคงระงับการส่งออกข้าวต่อเนื่อง
สำหรับราคาข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 615-620 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ใกล้เคียงเวียดนามที่ตันละ 605-610 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ไทยแข่งขันได้
คาดว่าช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้จะส่งออกได้ 2.5 ล้านตัน และทั้งปี คาดว่าจะส่งออกได้เกินเป้าหมายที่ 7.5 ล้านตัน