หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และแม่ฮ่องสอน ต้องเร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เข้าควบคุมและดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองแพร่กระจายรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ที่จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งเข้าควบคุมไฟป่าที่ลุกลามในบริเวณบ้านแม่ตะมาน ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง แม้ต้องดำเนินการในเวลากลางคืน แต่ก็พยายามทุ่มกำลังเต็มที่เพื่อดับไฟให้หมด เนื่องจากหากดับไฟไม่ทัน หมอกควันและฝุ่นละอองจะแพร่กระจายเข้าสู่เขตเมืองเชียงใหม่และส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำทีมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานการณ์และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างหนัก พร้อมเน้นย้ำให้ระมัดระวังเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย ทำงานอย่างไม่ประมาท และบูรณาการประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในขณะที่ข้อมูลจากระบบตรวจจับความร้อนจากดาวเทียม เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พบว่ามีจุดความร้อนเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่รวม 198 จุด โดยเกือบทั้งหมดเป็นไฟป่าที่เกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ป่าธรรมชาติ ทำให้หน่วยงานต้องเพิ่มความเข้มงวดและดำเนินการลาดตระเวนตรวจสอบและสกัดกั้นในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเผาป่าผิดกฎหมายทุกกรณี ไม่ให้ไฟป่าลุกลามจนส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชนและพื้นที่อยู่อาศัยของประชาชน
ส่วนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังคงพบว่ามีไฟป่าลุกลามอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณด้านหลังของวัดพระธาตุแม่เย็น อำเภอปาย ที่พบว่ามีเปลวไฟกำลังลุกลามผ่านมาทั้งกลางวันและกลางคืน และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะยังคงลุกลามต่อเนื่องจนถึงวันพรุ่งนี้อย่างน้อย ทำให้จังหวัดมีฝุ่นละอองและหมอกควันปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งนอกจากเป็นหมอกควันจากไฟป่าในพื้นที่แล้ว ยังมีแรงผลักดันจากหมอกควันที่พัดพามาจากพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านด้วย โดยข้อมูลจาก GISTDA พบว่า ในพื้นที่มีการเกิดจุดความร้อนเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่
ดังนั้นทุกหน่วยงานจึงต้องเร่งรัดติดตามและสกัดกั้นมิให้มีการลักลอบเผาป่าในพื้นที่ต่างๆ อย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของหมอกควันลามไปสู่ชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง ก่อให้เกิดผลกระทบด้านสุขภาพต่อประชาชนเพิ่มขึ้นในวงกว้างขวางมากกว่านี้
