นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ ยื่นหนังสือถึงนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กรณีโรงงานแป้งมันสำปะหลังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ปล่อยน้ำเน่าเสียลงไปในที่ดินของ สปก.ประมาณ 300 ไร่
ทนายกฤษฎา เปิดเผยว่า ส่วนตัวได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป.แล้ว เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 1 นาย รวมถึงเจ้าของโรงงานและกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท 6 คน ที่ร่วมกันสนับสนุนการกระทำความผิด และก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ สปก.โคราช 2 นาย ตามมาตรา 157 และให้เลขาธิการ สปก.พิจารณาลงโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายด้วย
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า ได้รับผลกระทบเรื่องกลิ่นเหม็นจากน้ำเสีย เคยแจ้งโรงงานไปแล้ว แต่ก็ไม่มีการเยียวยาหรือการแก้ปัญหาใดๆ โดยอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง
หลังยื่นหนังสือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ศูนย์ดำรงธรรม จ.นครราชสีมา และทนายกฤษฎา ได้ลงตรวจพื้นที่ สปก.ดังกล่าว ซึ่งอยู่ด้านหลังโรงงานแป้งมันสำปะหลัง พบป้ายประกาศ “ห้ามบุกรุก พื้นที่ส่วนบุคคล ในยามวิกาลตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 06.00 น. ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย จากนั้นพบบ่อกักเก็บน้ำที่มีสภาพเป็นสีเขียวหลายบ่อ มีบ่อส่งน้ำ พร้อมปั๊มน้ำขนาดใหญ่ที่กำลังเดินเครื่องระบายน้ำทิ้งจากบ่อหนึ่งไปอีกบ่อหนึ่ง โดยมีหมุด สปก.ปักแบ่งเขตในพื้นที่อยู่ด้วย ในระหว่างตรวจดูพื้นที่ พบเห็นคนของโรงงานขับขี่รถจักรยานยนต์มาถ่ายรูปเพื่อรายงานเจ้าของโรงงาน
นายอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงาน ศูนย์ดำรงธรรม จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้รับเรื่อง กล่าวว่า จากการตรวจดูพื้นที่ เห็นสภาพบ่อน้ำตามที่มีการร้องเรียน และพบหลักหมุดของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน คาดว่าจะเป็นที่ดิน สปก. ตามที่ทนายกฤษฎากล่าวอ้างมา หลังจากนี้จะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเพิ่มเติม