เนื่องจากมลภาวะทางอากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่น PM2.5 เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบกับประชาชนเป็นประจาทุกปีโดยเฉพาะในเขตภาคเหนือ ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มช. เล็งเห็นถึงความสาคัญ และหาแนวทางแก้ไขปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากโครงการนำร่องปรับปรุงให้อาคารสุจิณฺโณ เป็นอาคารผู้ป่วยที่ปราศจาก PM2.5 ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา บุคลากร และญาติผู้ป่วยที่อยู่ในบริเวณอาคารสุจิณฺโณ มีสุขภาพที่ดี ในช่วงมลภาวะฝุ่น PM2.5
ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ)นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า “เนื่องด้วยในบางช่วงของปีมีสถานการณ์หมอกควันในภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งมีผลให้ค่า PM2.5 สูงเกินมาตรฐานปกคลุมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันอาคารสุจิณฺโณ มีห้องพักผู้ป่วยแบบปรับอากาศและไม่ปรับอากาศ ซึ่งห้องพักผู้ป่วยรวมเป็นห้องผู้ป่วยแบบไม่ปรับอากาศ ซึ่งปกติจะมีการเปิดหน้าต่างเพื่อการระบายอากาศ ดังนั้นกรณีฝุ่นในช่วง PM2.5 เข้ามายังอาคารหอผู้ป่วยสุจิณฺโณ จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยเฉพาะสภาวะทางเดินหายใจของผู้ป่วย จึงได้มีแนวคิดในการป้องกันปัญหา PM2.5 ของอาคารสุจิณฺโณ โดยเป็นการสร้างระบบให้ความดันภายในอาคารสูงกว่าความดันภายนอกบริเวณอาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นเล็ดลอดเข้ามาในอาคารสุจิณฺโณ การลดพื้นที่ช่องเปิดให้เหลือน้อยที่สุดและทาการเติมอากาศสะอาดเข้ามาภายในบริเวณโถงทางเดิน อากาศที่เติมเข้าบริเวณหอผู้ป่วยนี้ จะถูกกรองด้วยระบบกรองอากาศ ผ่าน Filter 3 ชั้น ได้แก่ แผ่นกรองอากาศชนิด ชั้นต้น (Pre – Filter), แผ่นกรองอากาศ ชั้นกลาง (Secondary -filter) และแผ่นกรองอากาศขั้นสูง (HEPA -filter) ที่มีความสามารถในการกรองและลดระดับฝุ่น PM2.5 ได้ถึงระดับปกติได้
ส่วนพื้นที่ช่องเปิดและหน้าต่างสาหรับระบายอากาศที่เหลือ จะทาการติดตั้งม่านกันฝุ่น PM2.5 โดยใช้ม่านกันฝุ่นชนิดนาโนไฟเบอร์ ทั้งนี้ในอาคารสุจิณฺโณ จะได้มีการติดตั้งเซนเซอร์วัดปริมาณฝุ่น PM2.5 เพื่อติดตามปริมาณฝุ่นภายในอาคาร และสามารถรายงานผลได้ทุกช่วงเวลาแบบ Real time ในห้องผู้ป่วยเดี่ยวจะมีเครื่องฟอกอากาศติดตั้งประจาห้องทุกห้อง
ดังนั้นในอนาคตอันใกล้อาคารผู้ป่วยหลวงปู่แหวนสุจิณฺโณ จะเป็นอาคารที่ปราศจากฝุ่น PM2.5 ทั้งอาคาร เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้ป่วย และผู้ใช้บริการทุกท่านตามเจตนารมย์ในการให้บริการที่เป็นเลิศของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่