นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงถึงข่าวกระแสแบนเที่ยวเกาหลีใต้ในสื่อสังคมออนไลน์ และการประชุมประจำปีระหว่างปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทยและเกาหลีใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2566 นั้น ในระหว่างการประชุมดังกล่าว ในประเด็นคนไทยถูกปฏิเสธเข้าเมืองเกาหลีใต้
และมาตรการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดของ ตม.เกาหลีใต้ ทางนายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ มีความกังวลต่อปัญหานี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวไทยจำนวนมากที่ประสงค์ไปท่องเที่ยวที่เกาหลีใต้อย่างบริสุทธิ์ใจ และกลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดียที่อาจกระทบต่อการท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ของชาวไทยในภาพใหญ่ได้
ซึ่งปลัดกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ ก็ได้กล่าวแสดงความเสียใจที่เกิดปัญหาดังกล่าวด้วย และไม่ประสงค์ให้ปัญหานี้มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวชาวไทย รวมถึงต่อมิตรภาพที่ดีระหว่างประชาชนของทั้งสองฝ่าย และย้ำว่า เกาหลีใต้ไม่มีนโยบายที่จะปฏิเสธนักท่องเที่ยวไทยเข้าเมืองแต่อย่างใด โดยการตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวด อาจเป็นเรื่องเฉพาะของเจ้าหน้าที่ ตม.บางคนเท่านั้น
ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้มีความจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาคนไทยทำงานอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และได้ออกมาตรการ เช่น “voluntary departure programme” หรือ โครงการให้ผู้ทำงานอย่างผิดกฎหมายสมัครใจไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ เพื่อให้ส่งกลับประเทศต้นทาง โดยจะไม่ต้องรับโทษตามกฎหมายเกาหลีใต้ และไม่ต้องขึ้นบัญชีดำในการเข้าประเทศเกาหลีใต้แต่อย่างใด นอกจากนี้ ในปีนี้ ได้เพิ่มโควตาแรงงานไทยไปทำงานในเกาหลีใต้ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ EPS (Employment Permit System) จำนวน 4,800 คน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องให้เร่งจัดการประชุมกลไกหารือด้านการกงสุลไทย – เกาหลีใต้ ครั้งที่ 6 ที่เกาหลีใต้ เพื่อให้อธิบดีกรมการกงสุลของแต่ละฝ่ายได้ร่วมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและโดยเร็วที่สุด