เปิดวิสัยทัศน์แนวนโยบายที่สำคัญจากตัวแทน 8 พรรคการเมือง ที่มาร่วมเวทีดีเบต Thailand Next Move : ก้าวต่อไป Thailand เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ผ่านทางช่อง Mono 29 โดยนายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้มาเป็นตัวแทนของพรรคในการร่วมดีเบตในครั้งนี้
…
ดีเบตเลือกตั้ง 2566 – “ฟื้นเศรษฐกิจ”
ในช่วงแรกของการเปิดเวทีดีเบต เป็นช่วงของประเด็นในเรื่องเศรษฐกิจ – ปากท้อง ซึ่งได้มีการสุ่มเลือกคีย์เวิร์ดได้ในคำว่า “ฟื้นเศรษฐกิจ” นายวรวุฒิ อุ่นใจ ตัวแทนพรรคชาติพัฒนากล้าได้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่า
เรามุ่งเน้นลดค่าครองชีพทำได้เลยทันที โดยเฉพาะการลดพลังงาน ค่าน้ำมัน ที่มีปัญหาค่าการกลั่น ค่าการตลาด เราสู้มาเป็นปี ก่อนใคร การปรับโครงสร้างพลังงานเป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องทำทันที เพิ่มการเข้าถึงเงินทุน ในกลุ่มเอสเอ็มอีก 5-6 ล้านรายที่ติดแบล็กลิสต์ ให้เข้าถึงสินเชื่อได้ โดยการยกเลิกระบบเครดิตบุโร เปลี่ยนเป็นเครดิตสกอลิ่ง และแบงค์ต้องแข่งกันเรื่องอัตราดอกเบี้ย ไม่ใช่แจกปฏิทิน
นอกจากนี้ จะลดภาษีเงินได้ของผู้มีรายได้ไม่ถึง 4 หมื่นบาท คนที่ได้มากกว่าก็จะลดไปด้วย ตามฐานภาษีขั้นแรก จะทำให้เกิดกระกระตุ้นกำลังซื้อทันที ดีกว่าขึ้นค่าแรง เพราะภาษีแก้กฎหมายใช้เวลาไม่นานทำได้ทันที เราเน้นหารายได้เข้าประเทศ มากกว่าผลาญงบประมาณ
…
ดีเบตเลือกตั้ง 2566 – “คอรัปชั่น”
ในรอบที่ 2 ซึ่งเป็นการจับคู่แสดงวิสัยทัศน์อีกครั้ง โดยในรอบนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “คอรัปชั่น” โดยนายวรวุฒิ ตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนากล้าได้พูดถึงนโยบายของพรรคในเรื่องนี้ว่า
คอรัปชั่นเป็นปัญหาใหญ่มาอย่างยาวนาน วันนี้เราเห็นพรรคการเมืองแบ่งขั่ว ฝั่งประชาธิปไตย ฝั่งอนุรักษ์นิยม แต่ไม่ว่าขั่วไหน เราต้องทำให้ใครก็ตามที่โกง ไม่ให้ขึ้นมามีอำนาจ
ปัญหาคอรัปชั่นของไทย มาจาก 3 ภาคส่วนสำคัญคือ ภาคธุรกิจ นักการเมือง ข้าราชการ
เราเชื่อว่าการจะตัดตอนวงจรอุบาวท์นี้ได้ต้องให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ ยกระดับเป็น รัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) ต่อไปข้อมูลหน่วยงานรัฐต้องอยู่ในมือถือ เป็นดิจิทัลฟุตปริ้นท์ ไม่อย่างนั้น เราจะยังเห็นการโกงและแพ้ให้กับการคอรัปชั่นเสมอ
อย่างที่เรามีเสาไฟกินรี ต้นละเป็นแสน แต่ในออนไลน์แค่ไม่กี่พัน หากเรามีเทคโนโลยี จะเห็นหมดว่าใครอนุมัติ ใครสั่ง ซื้อจากใคร ราคาตลาดเท่าไหร่ จับได้ ไม่ต้องไปทะเลาะกับข้าราชการ เพราะชัดเจนหน่วยงานไหนมีปัญหาโกง รู้หมด
ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปอย่างไร
และในช่วงสุดท้ายที่เปิดเวทีให้แต่ละพรรคได้แสดงวิสัยทัศน์ภายในเวลา 1.30 นาที ในคำถามเดียวกับอีกทั้ง 7 พรรคนั่นคือ หากท่านได้เข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ประเทศไทยจะเปลี่ยนไปอย่างไร โดยนายวรวุฒิ ตัวแทนจากพรรคชาติพัฒนากล้าได้ระบุว่า
สร้างโอกาสนิยม ไม่ใช่ประชานิยม เพราะผมเชื่อว่า สิ่งที่เป็นปัญหาโครงสร้างมาโดยตลอด ไม่สามารถแก้ได้ด้วยประชานิยม มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เวเนซุเอลา อาร์เจนตินา ศรีลังกา สุดท้ายเงินเฟ้อ ผู้คนต้องเอารถเข็นหอบแบงค์ไปจ่ายตลาด ค่าเงินหดหายไปหมด
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในโครงการประชานิยม หนึ่งคือขึ้นค่าแรง สองคือการแจกเงิน สิ่งเหล่านี้ เป็นปัญหาในระยะยาว ดังนั้นเราจึงเชื่อในเรื่องการสร้างโอกาส ฉะนั้นเราจึงเสนอปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ 4 เรื่อง คือ เรื่องพลังงงาน เรื่องการเข้าถึงเงินทุน เรื่องภาษี และเรื่องของระบบราชการ
จริง ๆ แล้ว หัวหน้าพรรคของเราคุณกรณ์ จาติกวนิช เคยได้รับรางวัลรัฐมนตรีคลังโลก ในปี 2552 จีดีพีประเทศไทยติดลบ 0.7% ปีถัดมาขึ้นเป็น +7.8% อยากได้คนแบบนี้ไปทำงาน เลือกชาติพัฒนากล้า เบอร์ 14