KEY :
- ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปริมาณฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้นในหลายพื้นที่
- โดยภาคเหนือมีการระบายอากาศอ่อน สภาวะอากาศปิดสลับเปิดใกล้ผิวพื้น และมีรายงานจุดความร้อนในพื้นที่เพิ่มขึ้น
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์อ่อน มีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น แต่การมีฝนยังคงช่วยลดความเข้มข้นของฝุ่นได้บางส่วน
- ภาคกลาง ด้านตะวันตกมีฝุ่น PM 2.5 ลดลง แต่ทางตอนเหนือของภาคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
…
ภาคเหนือ
พื้นที่ภาคเหนือในวันนี้ แนวโน้มค่าฝุ่น PM 2.5 มีทิศทางที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการระบายอากาศที่ค่อนข้างอ่อน มีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้นสลับกับอากาศเปิด ทำให้ฝุ่นควันยังคงสะสมตัวได้ รวมถึงมีรายงานจุดความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้น ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด ส่วนจุดความร้อนที่พบในประเทศเมียนมาร์นั้นมีจำนวนลดลง
โดยในช่วงวันที่ 29 -30 เม.ย. การระบายอากาศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ก่อนที่จะลดลงในช่วงวันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป ลดลงอยู่ในเกณฑ์ไม่ดีในช่วงวันที่ 4-5 พ.ค. ดังนั้น จึงควรเฝ้าระวังฝุ่นที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงดังกล่าวได้
คุณอาจจะสนใจเรื่องนี้
– เช็คพื้นที่เตรียมรับมือ “พายุฤดูร้อน” 24 – 26 เม.ย.นี้ – ฝน – ลม – ลูกเห็บ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้งโดยเฉพาะทางด้านตะวันออกของภาคที่ติดกับประเทศลาว รวมถึงบริเวณตอนกลางของภาคที่ต่อเนื่องกับภาคกลาง
ซึ่งในระยะนี้ การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์อ่อน และมีภาวะอากาศปิดใกล้พื้นผิว โดยคาดว่าจะมีฝนตก ช่วยให้ฝุ่น PM 2.5 มีความเข้มข้นต่ำลง
สำหรับในช่วงหลังจากวันที่ 3 พ.ค. จะมีการระบายอากาศที่ดีขึ้นบ้าง แต่ไม่มากนัก
ภาคกลาง – ภาคตะวันตก
สำหรับในภาคกลางนั้น บริเวณด้านตะวันตกของภาค ต่อเนื่องกับภาคตะวันตก มีแนวโน้มฝุ่น PM 2.5 ลดลง ในขณะที่บริเวณทางตอนบนของภาคกลาง ต่อภาคเหนือตอนล่าง และบางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มฝุ่น PM 2.5 เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งการระบายอากาศบริเวณภาคกลางในระยะนี้ อยู่ในเกณฑ์อ่อน สภาวะอากาศบริเวณใกล้ผิวพื้นมีการสลับเปิด-เปิด จึงทำให้ยังคงมีฝุ่นสะสมตัวได้บางส่วน โดยที่มีฝนตกในระยะนี้ จึงช่วยทำให้ฝุ่น PM 2.5 มีความเข้มข้นต่ำ
คุณอาจจะสนใจเรื่องนี้
– พื้นที่ปลอดภัยจาก PM 2.5 ไม่ถึง 1% และผู้ที่หายใจในอากาศที่ปลอดภัยมีเพียง 0.001% เท่านั้น
…
กรุงเทพฯ – ปริมณฑลสภาพอากาศ
สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในเช้าวันนี้ ( 29 เม.ย. ) สภาพอากาศมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมา มีฝนตกในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณกรุงเทพฯ ตอนบน ต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี ร่วมกับสภาพอากาศที่มีกระแสลมแรงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณฝุ่นควันที่สะสมในพื้นที่มีปริมาณลดลง
ซึ่งในระยะนี้ การระบายอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลยังคงอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี แต่ยังคงมีสภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ทำให้ยงคงมีโอกาสที่ฝุ่นจะสะสมตัวได้ โดยเฉพาะในวันที่ 30 เม.ย. ที่จะมีอัตราการระบายอากาศที่ค่อนข้างต่ำ
แต่ด้วยสภาพอากาศที่คาดว่า จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และลมกระโชกแรง จึงส่งผลให้ฝุ่น PM 2.5 ที่คาดว่าจะสะสมตัวนั้น จะมีความเข้มข้นที่ค่อนข้างต่ำ
…
10 จุดค่าฝุ่นสูงสุดในไทย
สำหรับ 10 จุดที่มีรายงานค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงที่สุดในประเทศเมื่อเวลา 08.00 น.จากรายงานของ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่
จุดตรวจวัด | ปริมาณฝุ่น PM 2.5* | |
---|---|---|
1 | รพ.สต.บ้านใหม่ ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 369 |
2 | รพ.สต.บ้านปางมะเยา ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 355 |
3 | บ้านปางมะเยา ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 334 |
4 | สสอ.นาคู ต.นาคู อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ | 231 |
5 | บ้านผาแดง ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ | 207 |
6 | รพ.ท่าสองยาง ต.แม่ต้าน อ.ท่าสองยาง จ.ตาก | 206 |
7 | บ้านป่าตึงงาม ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 206 |
8 | รพ.สต.บ้านแม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 205 |
9 | บ้านห้วยโจ้ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 195 |
10 | บ้านปางมะกง ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 194 |
* ค่าฝุ่นละอองเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
…
รายงานจุดความร้อนในภูมิภาค
สำหรับรายงานจุดความร้อนที่เกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมามีจำนวนลดลงจากวันก่อนหน้า โดยพบทั้งหมด 3,162 จุด โดยจำนวนที่ลดลงนั้นอยู่ในอยู่ประเทศเมียนมาร์เป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ประเทศลาว ไทย เวียดนาม มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น
โดยพบในประเทศต่าง ๆ ดังนี้
- เมียนมาร์ 1,527 จุด (ลดลงจาก 2,391 จุด)
- ลาว 752 จุด (เพิ่มขึ้นจาก 654 จุด)
- ไทย 502 จุด (เพิ่มขึ้นจาก 365 จุด)
- เวียดนาม 250 จุด (เพิ่มขึ้นจาก 197 จุด)
- กัมพูชา 118 จุด (ลดลงจาก 306 จุด)
- มาเลเซีย 13 จุด ( เพิ่มขึ้นจาก 12 จุด)
ในประเทศไทยนั้น จำนวนจุดความร้อนมีจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นจากวันก่อนหน้า โดยส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ จำนวน 359 จุด ในขณะที่จุดความร้อนในพื้นที่ภาคกลางมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น บริเวณตอนกลางของประเทศ
สำหรับ 10 จังหวัดที่พบจุดความร้อนสูงที่สุดได้แก่
จังหวัด | จุดความร้อน | |
---|---|---|
1 | น่าน | 57 |
2 | เชียงใหม่ | 48 |
3 | เชียงราย | 47 |
4 | นครสวรรค์ | 31 |
5 | พิจิตร | 29 |
6 | ลำปาง | 26 |
7 | สุพรรณบุรี | 23 |
8 | กำแพงเพชร | 20 |
9 | พระนครศรีอยุธยา | 20 |
10 | แพร่ | 19 |