KEY :
- ภาคเหนือ ฝุ่น PM 2.5 ทางตอนบนของภาคมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยในขณะนี้ฝุ่น PM 2.5 ยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐาน และเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต่อเนื่อง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แนวโน้มฝุ่นยังคงใกล้เคียงเดิม มีสูงเกินค่ามาตรฐานหลายพื้นที่ทางตอนบนของภาค และด้านที่ติดกับประเทศลาว
- ภาคกลาง ปริมาณฝุ่นลดลงเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ยังคงเกินค่ามาตรฐาน อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งในช่วง 20 – 21 เม.ย. การระบายอากาศจะลดลง คาดว่าฝุ่นจะสะสมตัวได้มากขึ้น
- ภาคใต้ มีแนวโน้มลดลง โดยยังคงพบปริมาณฝุ่นที่สูงเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ ภูเก็ต ประจวบฯ ส่วนทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้ฝุ่นลดลง
…
สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทย หลายพื้นที่ยังคมีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือที่ยังคงมีฝุ่นสูงในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบสองเดือนแล้ว
ภาคเหนือ
แนวโน้มในวันนี้ ปริมาณฝุ่นในพื้นที่ภาคเหนือมีทิศทางที่เพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ในพื้นที่ทางตอนบนของภาค บริเวณจ.เชียงใหม่ เชียงราย ที่มีฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อเนื่องนานเกือบ 2 เดือนแล้ว ในขณะที่ทางตอนล่างของภาค มีแนวดน้มดีขึ้นเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ยังคงสูงเกินค่ามาตรฐาน
ซึ่งในช่วงตั้งแต่ 18 – 27 เม.ย. บริเวณภาคเหนือ มีการระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี-อ่อน” มีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้นที่ ทำให้ฝุ่นควันสะสมตัวได้ดี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำหรับภาคอีสานในเช้าวันนี้ แนวโน้มยังคงใกล้เคียงกับเมื่อวานที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่า สถานการณ์น่าจะดีขึ้นในช่วงวันที่ 19 – 23 เม.ย. เนื่องจากมีการระบายอากาศที่อยู่ในเกณฑ์ “ดี-ดีมาก” แต่ยังคงมีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น จึงทำให้บางพื้นที่มีฝุ่นสะสมตัวได้ในระดับปานกลาง – มาก
โดยในช่วงหลังจากวันที่ 24 เม.ย. เป็นต้นไป แนะนำเฝ้าระวังฝุ่นที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นได้จากสภาพการระบายอากาศที่ลดลง และฝุ่นควันจะสะสมตัวได้มากขึ้น
ภาคกลาง
สำหรับในภาคกลางในช่วงนี้ แนวโน้มฝุ่น PM 2.5 มีทิศทางที่ลดลงเล็กน้อย จากสภาพอากาศที่สามารถระบายอากาศได้ดีขึ้น แต่ในวันที่ 20 – 21 เม.ย. คาดว่า ฝุ่นจะสะสมตัวได้มากขึ้น เนื่องจากการะบายอากาศจะทำได้ลดลง ร่วมกับในช่วงตั้งแต่ 18 – 27 เม.ย. มีภาวะอากาศปิดใกล้ผิวพื้น ส่งผลให้ฝุ่นควันยังคงสะสมตัวได้
ภาคใต้
สำหรับพื้นที่ภาคใต้นั้น แนวโน้มฝุ่นลดลง ซึ่งแม้ว่าการระบายอากาศยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ไม่ดี – อ่อน” ตลอดช่วงวันที่ 18 -27 เม.ย. แต่ภาวะอากาศค่อนข้างเปิด มีการยกตัวดี และมีโอกาสที่ฝนจะตกมากขึ้น
คุณอาจจะสนใจเรื่องนี้
– พื้นที่ปลอดภัยจาก PM 2.5 ไม่ถึง 1% และผู้ที่หายใจในอากาศที่ปลอดภัยมีเพียง 0.001% เท่านั้น
…
กรุงเทพฯ – ปริมณฑล แนวโน้มฝุ่นลดลง
สำหรับพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลในระยะนี้ แนวโน้มของฝุ่น PM 2.5 ยังคงมีแนวโน้มลดลง แต่โดยส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ และอยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพในบางพื้นที่
สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ เช้าวันนี้ ( 19 เม.ย. 08.00 น. ) ผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่น PM 2.5 พบว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีปริมาณฝุ่นสูงเกินค่ามาตรฐาน จำนวน 13 พื้นที่ด้วยกัน โดย 10 พื้นที่ที่พบค่าฝุ่น PM 2.5 สูงที่สุดในกรุงเทพฯ ได้แก่
เขต | ปริมาณฝุ่น PM 2.5* | |
---|---|---|
1 | เขตบางขุนเทียน (สถานี คพ.) | 66 |
2 | เขตดินแดง (สถานี คพ.) | 58 |
3 | เขตบางกอกน้อย | 56 |
4 | เขตปทุมวัน | 54 |
5 | เขตคลองสาน | 54 |
6 | เขตสัมพันธวงศ์ | 53 |
7 | เขตตลิ่งชัน | 53 |
8 | เขตพระนคร | 53 |
9 | เขตบางกอกใหญ่ | 52 |
10 | เขตทวีวัฒนา | 52 |
…
10 จุดค่าฝุ่นสูงสุดในไทย
สำหรับ 10 จุดที่มีรายงานค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงที่สุดในประเทศเมื่อเวลา 08.00 น.จากรายงานของ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่
จุดตรวจวัด | ปริมาณฝุ่น PM 2.5* | |
---|---|---|
1 | รพ.สต.ริมปิง ต.ริมปิง อ.เมือง จ.ลำพูน | 663 |
2 | รพ.สต.เวียงยอง ต.เวียงยอง อ.เมือง จ.ลำพูน | 663 |
3 | รพ.สต.หนองไฮน้อย ต.หนองข่า อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ | 663 |
4 | รพ.สต.บ้านใหม่ ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 603 |
5 | รพ.สต.บ้านงิ้วเฒ่า ต.ป่าหุ่ง อ.พาน จ.เชียงราย | 461 |
6 | รพ. เวียงแหง ต.เมืองแหง อ.เวียงแหง จ. เชียงใหม่ | 361 |
7 | บ้านสันตะผาบ ต.ป่าไหน่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ | 355 |
8 | วัดบ้านดอนศรีสะอาด ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 349 |
9 | รพ.สต.บ้านปางมะเยา ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ | 346 |
10 | บ้านแม่ละงอง ต.น้ำแพร่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ | 343 |
* ค่าฝุ่นละอองเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
…
รายงานจุดความร้อนในภูมิภาค
สำหรับรายงานจุดความร้อนที่พบในภูมิภาคเมื่อวานที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างสูงและใกล้เคียงกับวันก่อนหน้านี้ โดยในประเทศลาว ที่พบจุดความร้อนทั้งหมด 3,410 จุด เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ทำให้ขึ้นมาอยู่อันดับที่หนึ่ง แทนเมียนมาร์ ที่มีจุดความร้อนลดลงเหลือ 3,258 จุด (ลดลงราว 1,200 จุด)
ในขณะที่ประเทศไทยมีรายงานจุดความร้อนทั้งหมด 1,328 จุด เพิ่มขึ้นราว 50 จุดจากวันก่อนหน้า โดย 10 จังหวัดที่พบจุดความร้อนสูงสุดได้แก่
จังหวัด | จุดความร้อน | |
---|---|---|
1 | เชียงราย | 245 |
2 | เชียงใหม่ | 131 |
3 | น่าน | 100 |
4 | ลำปาง | 66 |
5 | เพชรบูรณ์ | 61 |
6 | นครสวรรค์ | 46 |
7 | กำแพงเพชร | 45 |
8 | พะเยา | 41 |
9 | พิษณุโลก | 31 |
10 | กาญจนบุรี | 30 |