เหนือ – อีสาน – กลางตอนบน ฝุ่น PM 2.5 ยังเกินค่ามาตรฐานหลายพื้นที่

KEY :

• สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในประเทศไทยยังคงทรงตัว – ลดลงบางพื้นที่
• บริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่
• สาเหตุเนื่องจากการะบายอากาศที่ยังทำได้ไม่ดีนัก และกระแสลมอ่อน ทำให้ฝุ่นควันสามารถสะสมตัวได้
• บริเวณภาคกลางตอนล่าง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ฝุ่น PM 2.5 ลดลง เนื่องจากสภาพอากาศเปิดมากขึ้น กระแสลมแรงขึ้น

…

…

จากรายงานของศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา พบว่า เมื่อเปรียบเทียบเวลาเดียวกันของเมื่อวานนี้ ( 17 มี.ค.) จะเห็นว่า สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 บริเวรประเทศไทยยังคงใกล้เคียงเดิม

โดย บริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีฝุ่นละออง PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นผลมาจากการะบายอากาศที่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ กระแสลมอ่อน จึงยังทำให้ฝุ่นควันสะสมตัวเพิ่มเติมได้

สำหรับบริเวณภาคกลาง โดยเฉพาะบริเวณภาคกลางตอนล่างนั้น สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี – ปานกลางหลายพื้นที่ เนื่องจากการระบายอากาศที่ดีขึ้น กระแสลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมช่วยพัดพาฝุ่นควัน ไม่ให้สะสมตัว ส่งผลให้สภาพอากาศดีขึ้นต่อเนื่อง

คุณอาจจะสนใจเรื่องนี้
– พื้นที่ปลอดภัยจาก PM 2.5 ไม่ถึง 1% และผู้ที่หายใจในอากาศที่ปลอดภัยมีเพียง 0.001% เท่านั้น

…

กทม. – ปริมณฑล สถานการณ์เริ่มดีขึ้น

ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในวันนี้ ( 18 มี.ค. ) สภาพอากาศมีแนวโน้มดีขึ้น หลายพื้นที่มีสภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี มีเพียงบางจุดเท่านั้นที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน

สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ จากรายงานของกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมาพบว่า มีเพียงพื้นที่เขตบางขุนเทียน พื้นที่เดียวเท่านั้น มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน โดยพบปริมาณฝุ่น PM 2.5 63 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร

…

10 จุดค่าฝุ่นสูงสุดในไทย

สำหรับ 10 จุดที่มีรายงานค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงที่สุดในประเทศเมื่อเวลา 08.00 น.จากรายงานของ ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่

* ค่าฝุ่นละอองเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

…

จุดความร้อนในไทยเพิ่มขึ้น

สำหรับตอนทั้งวันของเมื่อวานที่ผ่านมา ( 17 มี.ค. ) จากรายงานจุดความร้อนของ GISTDA พบว่า ในภูมิภาคมีจำนวนจุดความร้อนทั้งหมด 5,659 จุด มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันก่อนราว 100 กว่าจุด

จุดความร้อนที่พบในภูมิภาค แบ่งเป็นรายประเทศ ดังนี้

• ลาว 2,047 จุด
• เมียนมาร์ 1,385 จุด
• กัมพูชา 987 จุด
• ไทย 697 จุด
• เวียดนาม 521 จุด
• มาเลเซีย 22 จุด

ซึ่งในประเทศไทยนั้น มีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งพบกระจายกันอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ บริเวณประเทศไทยตอนบน และมีเกาะกลุ่มหนาแน่นในบางพื้นที่เช่น บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เลย ชัยภูมิ เป็นต้น

สำหรับ 10 จังหวัดที่มีรายงานพบจุดความร้อนสูงสุดได้แก่