เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวนสอบสวน พร้อมหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย 2 จุดในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่พักของผู้ต้องหาสัญชาติจีน-ไต้หวัน ในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติจีน-ไต้หวัน ได้ 2 ราย และสัญชาติจีน 1 ราย ทำหน้าที่เป็นผู้ถือบัญชีม้ายึดของกลางรวม 61 รายการ
เมื่อขยายผลการจับกุม พบว่า มีแอปพลิเคชันของธนาคารที่ผูกกับบัญชีธนาคารบุคคลอื่น อีก 13 บัญชี โดยต่างมีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องในคดีคอลเซ็นเตอร์ อีกหลายคดีก่อนหน้านี้
จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ผู้ต้องหา ยังพบข้อมูลที่มีไว้หลอกลวงประชาชน ทั้งหมายเรียก หมายจับ หมายคดี ฟอกเงินของ ปปง. และเว็บไซต์หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ที่ถูกปลอมแปลงขึ้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ปฎิบัติการ “เด็ดปีกมังกร” สามารถจับผู้ต้องหาเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ได้ 13 ราย จากทั้งหมด 16 ราย ซึ่งจับตามหมายจับศาลอาญา อีก 3รายที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามตัว ซึ่งผู้ต้องหารับว่า หลอกลวงเหยื่อมาแล้วหลายครั้ง มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท ขณะเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้ต้องหาได้ข้อมูลเหยื่อมาจากการลักลอบซื้อดีลเลอร์ ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน