ช่วงที่ผ่านมา เรามักได้ยินกระแสการบริโภคเนื้อสัตว์ทางเลือกกันมากขึ้น ล่าสุด มีเกษตรกรใน จ.สตูล พลิกวิกฤติช่วงโควิด19 เลี้ยงกระต่ายเนื้อขายสร้างรายได้ ซึ่งพบว่าตลาดมีความต้องการสูงพร้อมขอให้สังคมเปิดใจและเข้าใจการบริโภคเนื้อกระต่าย
ฟาร์มเลี้ยงกระต่ายเนื้อที่ ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล เจ้าของคือนาย อับดลรอหมาน หลังปูเต๊ะ ซึ่งเปิดใจเล่าว่า สมัยเรียนที่ประเทศอินโดนีเซีย มีโอกาสกินเนื้อกระต่ายและรู้สึกชอบ พอกลับมาเมืองไทยประกอบอาชีพเขียนโปสเตอร์ขาย แต่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จึงพยายามหาช่องทางประกอบอาชีพ จึงได้ทดลองเลี้ยงกระต่าย โดยเริ่มซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กระต่าย 3-4 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นลูกผสมมาเลี้ยง
จากนั้นเมื่อทดลองขายออนไลน์ปรากฏว่ามีผู้สนใจสั่งซื้อเรื่อยๆ ทั้งใน จ.สตูล สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยส่งขายเป็นตัว ภายหลัง ยังพบว่า ลูกค้าบางส่วนต้องการซื้อเฉพาะเนื้อ จึงได้แปรรูปจำหน่ายในกิโลกรัมละ 350 บาท โดยเมนูที่นิยมนำไปทำคือ กระต่ายน้ำผึ้งอบสมุนไพร สะเต๊ะกระต่าย และแกงมัสมั่นกินคู่กับโรตี
ส่วนกรณีที่มี กระแสดราม่าบนโลกออนไลน์ เจ้าของฟาร์มมองว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนที่ไม่กินโดยขอให้เปิดใจและเข้าใจ ซึ่งล่าสุด ความนิยมของตลาดตอนนี้ ผลิตไม่พอกับความต้องการของตลาดแล้วเพราะเป็นอาหารของผู้ที่ต้องการโปรตีนสูงและไขมันต่ำ วัฒนธรรมการบริโภคกระต่ายในต่างแดน
สำหรับเนื้อกระต่าย มีหลายประเทศที่มีวัฒนธรรมในการบริโภค เช่นชาวอังกฤษบางกลุ่ม ที่มีการบริโภคมาตั้งแต่อดีต และปัจจุบันก็ยังบริโภคกันอยู่ ปัจจุบันเนื้อกระต่ายกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก โดยจำนวนการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 4 ต่อปี โดประเทศที่ส่งออกเนื้อกระต่ายสูงสุดคือ จีน รองลงมาคือเกาหลีใต้ และสเปน